"ธุรกิจไอที" หวั่นการเมืองฉุดลงทุน

"ธุรกิจไอที" หวั่นการเมืองฉุดลงทุน

ประเมินสถานการณ์ใกล้ชิด-ผู้จัดคอมมาร์ตรับหากการเมืองชัด หนุนยอดขายในงานได้อีก 6-10%

เอกชนไอทีหวั่นการเมืองสุญญากาศ กระทบความเชื่อมั่น ลงทุนชะงัก ล็อกซเลย์ ชี้อาจกระทบจีดีพีประเทศ หากยังตั้งรัฐบาลไม่ได้ใน 2-3 เดือนนี้ ด้านสมาคมฯ นายจ้างอิเล็กทรอนิกส์ ประเมิน เริ่มเห็นความกังวลในระดับอ่อน เชื่อธุรกิจยังเดินได้ ประเมินสถานการณ์ใกล้ชิด ขณะที่ผู้จัดคอมมาร์ตยอมรับ หากการเมืองนิ่งกว่านี้ยอดขายในงานอาจเพิ่มขึ้นอีก 6-10% หลังจบงานล่าสุดกวาดยอดทะลุ 3.5 พันล้านบาท

นายสุรช ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ล็อกซเล่ย์ กล่าวถึง ภาพรวมธุรกิจหลังการเลือกตั้ง ที่ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนในแง่ของการจัดตั้งรัฐบาลว่า ถ้าสามารถตั้งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพได้ภายใน 2-3 เดือน ก็ไม่น่ามีผลกระทบต่อการลงทุนมากนัก แต่ถ้ามีปัญหาเสถียรภาพจะทำให้การลงทุนชะงักได้เพราะทุกคนรอความชัดเจน และหากมีความไม่เรียบร้อยเกิดขึ้นอาจกระทบต่อการลงทุนขนาดกลางถึงใหญ่ รวมถึงกระทบต่อการเติบโตของประเทศ(GDP)ในปีนี้

ก่อนหน้านี้ เขาระบุว่า การผลักดัน เรื่อง eGov ให้สมบูรณ์ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนสำหรับรัฐบาลใหม่ ซึ่งเอกชนขนาดใหญ่พร้อมแล้วรอแค่รัฐทำระบบให้เชื่อมต่อให้ประเทศเข้าสู่ยุคอิเล็กทรอนิกส์ หรือ 4.0 อย่างเต็มรูปแบบ อุตสาหกรรมไอทีจะก้าวกระโดด หากต้องมีการพัฒนาบุคคลากรที่มีทักษะ และปริมาณเพียงพอต่ออุตสาหกรรมไอทีที่จะเพิ่มมากขึ้นด้วย

“ต้องปรับหลักสูตรให้สอดคล้อง และทันต่อความต้องการในอนาคตหลักๆ คือการพิจารณาสร้าง Infrastructure ของ future business เช่น มี National ePayment platform มี National Trading platform มี eGov platform และเชื่อมต่อประสานกัน ทำให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่การแข่งขันระดับโลกได้” นายสุรช กล่าว

ด้าน นายสัมพันธ์ ศิลปนาฎ นายกสมาคมนายจ้างอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ กล่าวว่า ช่วงสุญญากาศทางการเมืองแต่ละบริษัทภายในสมาคมฯ ได้มีการประเมินสถานการณ์กันอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่ยังเห็นว่า ไม่มีอะไรร้ายแรงยังอยู่ในภาวะที่รับได้ หากเริ่มมีความกังวลเกิดขึ้นบ้างแต่อยู่ในระดับอ่อน ส่วนใหญ่ยังคงเชื่อมั่นถึงแม้ว่าจะมีความเห็นที่แตกต่าง แต่สุดท้ายจะหาจุดที่ลงตัวกันได้

“บริษัทที่อยู่ในสมาคมไม่ได้มีการพูดกันถึงเรื่องการชะลอการลงทุน หรือมีแผนสำรองอะไร ทุกบริษ้ทมีการประเมิน และโดยส่วนใหญ่ยังดำเนินการตามแผนธุรกิจที่วางไว้” นายสัมพันธ์ กล่าว

ขณะที่ภาพรวมของอุตสาหกรรมฯ อิเล็กทรอนิกส์และไฟฟ้าช่วงต้นปี อาจได้รับผลกระทบจากภาพรวมของเศรษฐกิจโลก แต่เชื่อว่าช่วง 6 เดือนหลังของปีนี้ยังมีการเติบโตเพิ่มขึ้น และโดยรวมทั้งปีนี้จะมีการเติบโตดีขึ้นจากปี 2561 ส่วนอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ยังโตต่อเนื่อง และไทยยังเป็นอันดับ 1 ฐานการผลิตฮาร์ดดิสก์โลก

แหล่งข่าวในวงการไอที กล่าวเสริมว่า อุตสาหกรรมไอที โดยภาพรวมถูกผลักดันจากการลงทุนในภาคเอกชนเป็นหลัก แต่หากได้รัฐบาลเข้ามาสนับสนุนในแง่ของความเชื่อมั่นผู้บริโภค จะยิ่งส่งผลดี เพราะปัจจุบันโลกเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อน

ขณะที่ นายพรชัย จันทรศุภแสง ผู้อำนวยการธุรกิจสื่อไอทีและดิจิทัล บมจ.เออาร์ไอพี กล่าวว่า หลังจบงานคอมมาร์ต คอนเนค 2019 ที่ผ่านมา บรรยากาศการจับจ่ายยังคงความคึกคักแม้เปลี่ยนสถานที่จัดงานมาที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค โดยมีคนเดินเข้างานมากกว่า 900,000 คน จากเดิมประเมินไว้ 800,000 คน ขณะที่ เงินสะพัดภายในงานก็มากกว่าที่คาดเช่นกัน ครั้งนี้เงินสะพัด 3,500 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งไว้ 3,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม นายพรชัย ยอมรับว่า สถานการณ์การเมืองที่ยังไม่นิ่ง ส่งผลกระทบถึงความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ โดยหากได้รัฐบาลที่ชัดเจน และมีสเถียรภาพ จะยิ่งเพิ่่มความมั่นใจได้มากกว่านี้ อาจทำให้ยอดเงินสะพัดในงานคอมมาร์ตเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ 6-10%