นายกฯ เดือดคนที่พยายามเอาชนะกฎหมาย คือ 'คนเลว'

นายกฯ เดือดคนที่พยายามเอาชนะกฎหมาย คือ 'คนเลว'

นายกฯ มอบรางวัลองค์กรเป็นเลิศการเงินการคลัง ย้ำ "ยุทธศาสตร์ชาติ" ไม่ใช่การสืบทอดอำนาจ ชี้เรียกพวกชอบเอาชนะกฎหมายเป็น "คนเลว" ยืนยันทำงานด้วยความซื้อสัตย์สุจริต ตำหนิสื่อเสนอข่าวสร้างความขัดแย้ง

เมื่อวันที่ 4 เม.ย.62 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง ครั้งที่ 5 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 ซึ่งจัดโดยกรมบัญชีการ มีหน่วยงานที่ได้รับทั้งสิ้น 27 หน่วยงาน แบ่งออกเป็น 8 ประเภทรางวัล ได้แก่ รางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง /ประกาศเกียรติคุณด้านการจัดซื้อจัดจ้าง /ประกาศเกียรติคุณด้านการเบิกจ่าย /ประกาศเกียรติคุณด้านการบัญชีภาครัฐ /ประกาศเกียรติคุณด้านการตรวจสอบภายในภาครัฐ /ประกาศเกียรติคุณด้านปลอดความรับผิดทางละเมิด /ประกาศเกียรติคุณส่งเสริมความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง และประกาศเกียรติคุณหน่วยงานที่มีการพัฒนาการปฏิบัติงานด้านการเงินการคลัง

พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวให้โอวาทตอนหนึ่งว่า ขอแสดงความยินดีและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ซึ่งรางวัลนี้จะเห็นว่าเกิดในรัฐบาลปัจจุบัน เพราะให้ความสำคัญกับการประเมินของทุกหน่วยงาน ซึ่งระบบการเงินการคลังเป็นสิ่งสำคัญของประเทศ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับการจัดทำโครงการต่างๆ รวมถึงข้าราชการก็ถือเป็นส่วนสำคัญ โดยเฉพาะในการดำเนินการทุกอย่างให้สอดคล้องตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แต่ย้ำว่าไม่ใช่เป็นการสืบทอดอำนาจอะไรทั้งสิ้น แต่เป็นการสืบทอดการทำงาน ที่ทุกคนต้องมีส่วนร่วม อย่างไรก็ตามการทำงานใหม่ๆมักจะเกิดปัญหา เพราะเกิดจากความไม่มั่นใจและไม่เชื่อมั่นจากบุคคลภายนอก แต่เราจะต้องทำงานด้วยความตั้งใจและเป็นไปตามกฎหมาย และในส่วนของการปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ก็มีกฎหมายกำกับดูแลอยู่แล้ว แต่อาจจะยังมีเกิดขึ้นบ้าง ซึ่งตนต้องการไม่ให้มีเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด ดังนั้นเราต้องมีจิตสำนึกในการบริหารราชการ ทำให้เป็นหน่วยงานที่มีธรรมาภิบาล ซึ่งหน่วยงานในประเทศไทยมีจำนวนมาก จึงต้องออกกฎหมายมาเพื่อให้เกิดการบูรณาการทำงานร่วมกันได้ เพื่อความสะดวก และที่ผ่านมาแม้ว่าจะมีกฎหมายออกมากำกับมากมาย แต่ก็ยังมีคนที่พยายามจะเอาชนะกฎหมายเหล่านั้น ซึ่งตนขอเรียกคนเหล่านี้ว่า "คนเลว"

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำว่าวันนี้ต้องสร้างความเชื่อมั่น ความศรัทธา และความยุติธรรมให้กับประชาชน ทุกคนต้องมีความเชื่อมั่น เห็นได้ว่าทุกวันนี้ตนเองก็ทำงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ส่วนจะพอหรือไม่ตนก็ไม่ทราบ เพราะดวงตาตัวเองก็แย่ไปมากแล้ว แต่ไม่เป็นไร เพราะทุกวันนี้ข้าราชการก็ก็เสียสละเข้ามาทำงาน แต่ไม่เป็นไร ในเมื่อทุกคนอาสาเข้ามาทำงานแล้ว ก็ต้องเสียสละ

นอกจากนี้ ในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวตัดพ้อกับสื่อมวลชน ถึงการนำเสนอข่าว ว่า ทุกวันนี้กำลังจะดีกำลังจะเรียบร้อยก็เขียนให้มันไม่ดีไปอีก ตนขอพูดอีกครั้ง ว่าวันนี้ไม่ใช่การสืบทอดอำนาจ แต่เป็นประชาธิปไตยที่ท่านต้องการให้มีการเลือกตั้ง เลือกตั้งมาแล้วไม่ได้เกี่ยวข้องกับตน ตนสั่งการอะไรไม่ได้ เลือกตั้งกันมา คุณเป็นคนเลือกก็จบกันไป ไปแก้ปัญหากันมาให้ได้ เดี่ยวผู้สื่อข่าวก็ถามผมเรื่องนี้เรื่องนู้นเรื่องนั้น จะฟ้องไม่ฟ้องไม่เกี่ยวกับผม แต่หากผมถูกฟ้องเมื่อไหร่ผมจะตอบท่าน ขณะนี้ยังไม่เกี่ยวกับผมสักอัน สื่อไม่ต้องรอถามผมผมไม่ตอบ ผมไม่อยากตอบเพราะความขัดแย้งทุกวันนี้มากพออยู่แล้ว ก็ถามอยู่ไม่กี่เรื่อง ถ้าตอบก็เอาไปเขียนต่ออีก วันนี้หนังสือพิมพ์รายใหญ่พาดหัวข่าว 2 ฉบับตัวเท่าหม้อแกงพาดกันทำไม พาดอย่างนี้ ต้องการสร้างความขัดแย้งกันอีกหรืออย่างไร รับผิดชอบด้วยนะ แต่ไปหาเอาเองว่าฉบับไหน

อย่างไรก็ตาม หลังมอบรางวัลนายกรัฐมนตรีไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เพียงแต่กล่าวสั้นๆว่า "ไปอ่านหนังสือพิมพ์เอาสิ" และเมื่อสื่อมวลชนถามว่าฉบับไหน นายกรัฐมนตรีบอกว่า "ไปหาเอาสิ"