'บิ๊กโจ๊ก' สั่งคุมเข้มช่วงเทศกาลสงกรานต์

'บิ๊กโจ๊ก' สั่งคุมเข้มช่วงเทศกาลสงกรานต์

“บิ๊กโจ๊ก” สั่งคุมเข้มช่วงเทศกาลสงกรานต์ พร้อมระดมกำลังรักษาความปลอดภัยสถานที่สำคัญรับนักท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2562 ที่ห้องศูนย์หมายจับคนร้ายข้ามชาติ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. เปิดเผยถึงมาตรการในการดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ภายหลังได้จับกุมกลุ่มแก๊งชาวมองโกเลียล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ว่า คนร้ายที่เป็นแก๊งมิจฉาชีพต่างๆ อาศัยช่องทางที่เป็นวีซ่านักท่องเที่ยว เข้ามาก่อเหตุในประเทศไทยในย่านแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งประตูน้ำ แพลทตินัม สยามสแควร์ ฯลฯ ซึ่งได้มีการจับกุมจนกลุ่มแก๊งเหล่านี้จนไม่กล้าเข้ามาก่อเหตุในประเทศอีก

ในส่วนของบริเวณหน้าวัด หรือตามสถานที่สำคัญๆ รอบเกาะรัตนโกสินทร์ ทางตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจ ตม. และตำรวจ บช.น. ยังคงตรวจตราอย่างเข้มงวดจริงจังและต่อเนื่อง รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ และรถไฟฟ้าบีทีเอส ก็ได้มีการตรวจพื้นที่ รักษาพื้นที่เปิดพื้นที่ให้ปลอดภัย สำหรับเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ทั้งชาวจีนและชาวอินเดีย รายได้การท่องเที่ยวของประเทศไทยเป็นอันดับ 4 ของโลก ในเรื่องการรักษาพื้นที่ได้ใช้มาตรการทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ คือสนามบิน ในการบูรณาการกำลังร่วมกัน จึงขอความร่วมมือคนไทยทั้งหมดให้เป็นเจ้าบ้านที่ดี

ทั้งนี้ สำหรับรถแท็กซี่ จะต้องกดมิเตอร์ในการรับผู้โดยสาร ซึ่งได้มีการฝึกอบรมผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะไปแล้ว ทั้งสนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในกรุงเทพฯ เช่น เอเชียทีค ถนนข้าวสาร สีลม วันนี้หน่วยกำลังทั้งหมดมีความพร้อมในการบูรณากำลังร่วมกันทั้งทหาร ตำรวจในพื้นที่ต่างๆ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวตามเมืองรองต่างๆ ได้กระจายกำลังเจ้าหน้าที่ไปตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเพิ่มมากขึ้น เพราะคาดว่าปีนี้นักท่องเที่ยวจะเปลี่ยนรูปแบบเป็น FIT เพิ่มมากขึ้น จะเดินทางค้นหาแหล่งท่องเที่ยวด้วยตัวเอง

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ส่วนในพื้นที่ของภาคเหนือที่ช่วงนี้มีฝุ่นมากนั้น ยังไม่ส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยว เนื่องจากยอดการจองที่พัก เครื่องบิน และบริษัททัวร์ต่างๆ ยังไม่มีการยกเลิกเลย ประเทศไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งของคนจีนเหมือนเดิม และชาวอินเดียเดินทางเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น จากการยกเว้นค่าธรรมเนียมเรื่องการ Free VISA ON ซึ่งทางรัฐบาลได้สั่งการมาแล้วว่าหลังจากครบกำหนดยกเว้นค่าธรรมเนียมวันที่ 22 เม.ย.นี้จะขยายเวลาในการยกเว้นค่าธรรมเนียมต่ออีก 3 เดือน นักท่องเที่ยวหนึ่งคนนำรายได้เข้ามาใช้จ่ายในประเทศไทยต่อหัวประมาณ 52,000 บาท ในส่วนการยกเว้นค่าธรรมเนียม 2,000 บาท ทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มมากขึ้นและทำให้รายได้เข้ามาสู่ในประเทศเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย โดยนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3-4 % ซึ่งเป็นชาวจีน ชาวอินเดีย และชาวญี่ปุ่น ตามลำดับ ส่วนการเตรียมความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวจะมีการเตรียมความพร้อมบูรณาการกำลังหน่วยความมั่นคงทุกหน่วย ซึ่งนักท่องเที่ยวมีความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น