'ยูเอซี'เตรียมจับมือพันธมิตรลงทุนโรงไฟฟ้าขยะที่สปป.ลาวมูลค่า990ลบ.

'ยูเอซี'เตรียมจับมือพันธมิตรลงทุนโรงไฟฟ้าขยะที่สปป.ลาวมูลค่า990ลบ.

บอร์ด'ยูเอซี โกลบอล' ไฟเขียวบริษัทย่อย'ยูเอซี เอ็นเนอร์ยี่ 'ลงทุนโครงการจัดการขยะเพื่อผลิตพลังงานทดแทน มูลค่า990ล้านบาทเตรียมจับมือพันธมิตรตั้งบริษัทร่วมทุนในไตรมาส3/62 คาดเริ่มก่อสร้างปลายปีนี้

บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน)หรือ UAC แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท(บอร์ด) อนุมัติให้ บริษัท ยูเอซี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าลงทุน โครงการจัดการขยะเพื่อผลิตพลังงานทดแทนและแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่นำกลับมาใช้ใหม่ ที่นครเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาชาธิปไตยประชาชนลาว มูลค่าเงินลงทุนประมาณ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 990 ล้านบาท ทั้งนี้จะจัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อ Vientiane Waste Management (VWM) เพื่อดำเนินโครงการดังกล่าว ซึ่งมีทุนจดทะเบียน 9 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 297 ล้านบาท ภายในไตรมาส 3/2562 โดยบริษัท ยูเอซี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ถือหุ้น50.01%บริษัท ศแบง ซัสเทนเอเบิล เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ถือหุ้น 29.99% และบริษัท ขวัญเมืองกรุ๊ป (KMG) ซึ่งเป็นผู้ร่วมทุนในลาว ถือหุ้น 20% โดย KMG เป็นผู้ได้รับสัมปทานขยะมูลฝอยในเวียงจันทน์ สำหรับโครงการการจัดการขยะเพื่อผลิตพลังงานทดแทนและแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่นำกลับมาใช้ใหม่ ตั้งอยู่บนที่ดินพื้นที่สัมปทานของผู้ร่วมทุนในลาว คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปลายปี 2562 โดย VWM ได้รับสิทธิในสัมปทานที่ดินและบ่อขยะ จากแผนกแผนการและการลงทุน นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เป็นระยะเวลา 45 ปี ซึ่งสิทธิในสัมปทานที่ได้มา โครงการจะได้ขยะชุมชนจากนครหลวงเวียงจันทน์ ปริมาณเริ่มต้นที่ 400 ตันต่อวัน เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบของโครงการ ซึ่งสามารถสร้างประโยชน์จากขยะชุมชน เพื่อผลิตไฟฟ้าขายให้กับหน่วยงานภาครัฐ มีกำลังการผลิตประมาณ 6 เมกะวัตต์ , ขายพลาสติกรีไซเคิลให้กับบริษัทเอกชน โดยมีปริมาณการรับซื้อประมาณ 13,200 ตันต่อปี และขายปุ๋ยอินทรีย์เคมีให้กับหน่วยงานภาคเกษตรกรรมของสปป.ลาว โดยมีปริมาณการรับซื้อประมาณ 30,000 ตันต่อปี ทั้งนี้ เงินร่วมทุนของบริษัทร่วมทุนทั้ง 3 ราย มีจำนวนประมาณ 9 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 297 ล้านบาท โดยเป็นไปตามสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทร่วมทุน โดยเงินทุนในส่วนของบริษัท ยูเอซี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด มาจากเงินกู้ยืมจาก UAC ซึ่งเป็นเงินที่ได้จากผลการดำเนินธุรกิจ ส่วนเงินลงทุนที่เหลือ 693 ล้านบาท จะมาจากการกู้ยืมสถาบันการเงินเป็นเงินกู้ระยะยาว 7 ปี ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการลงทุนครั้งนี้ เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดอุตสาหกรรมด้านพลังงานสะอาด ปิโตรเคมี และสาธารณูปโภคที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์และพันธกิจขององค์กร และยังเป็นการพัฒนาระบบสาธารณูปโภค และระบบการกำจัดขยะในเขตชุมชนในลาว เพื่อรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็วตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 7