แอ๊ปเปิ้ลหั่นราคาไอโฟนในจีนหวังดันยอดขาย

เว็บไซต์ของแอ๊ปเปิ้ล ระบุว่า บริษัทได้ปรับลดราคาไอโฟนเอ็กซ์อาร์ ลง 4.6% จากราคา 6,499 หยวนในวันที่ 29 มี.ค. เหลือ 6,199 หยวน ส่วนไอโฟน เอ็กซ์เอสและไอโฟนเอ็กซ์เอส แม็กซ์มีการลดราคาลงรุ่นละ 500 หยวน นอกจากนี้ แอ๊ปเปิ้ลยังปรับลดราคาไอแพดส์ แม็คส์ และแอร์พ็อดลงด้วยเช่นกัน

การปรับลดราคาไอโฟนในครั้งนี้ อาจมีสาเหตุส่วนหนึ่งจากการที่รัฐบาลจีนได้ประกาศปรับลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (วีเอที) ในประเทศ โดยมีผลบังคับใช้เมื่อวันจันทร์ (1เม.ย.) ซึ่งผลิตภัณฑ์ของแอ๊ปเปิ้ลได้รับการปรับลดวีเอทีสู่ระดับ 13% จากเดิม 16%

ก่อนที่แอ๊ปเปิ้ลจะประกาศปรับลดราคาไอโฟนในวันนี้ บริษัทค้าปลีกออนไลน์ของจีนต่างพากันปรับลดราคาไอโฟนในช่วงต้นเดือนนี้ ท่ามกลางยอดขายที่ตกต่ำ โดยบริษัทเหล่านี้เคยปรับลดราคาไอโฟนมาแล้วในเดือนม.ค. ก่อนที่บริษัทแอ๊ปเปิ้ลจะเปิดเผยยอดขายที่ดิ่งลงในจีน

ซูนิงดอทคอม ประกาศลดราคาไอโฟนเอ็กซ์เอสเป็นจำนวน 1,000 หยวน จากราคาขายอย่างเป็นทางการ หลังจากที่ได้ประกาศลดราคาไอโฟนหลายรุ่นในเดือนม.ค. แต่ขณะนั้นไม่รวมรุ่น ไอโฟนเอ็กซ์เอส

พินตัวตัว อิงค์ ประกาศขายไอโฟน เอ็กซ์เอส  64 กิกะไบท์ ที่ราคา 6,999 หยวน โดยลดลงมากกว่า 1,000 หยวน ส่วนเจดีดอทคอม อิงค์ ประกาศลดราคาผลิตภัณฑ์แอ๊ปเปิ้ล ซึ่งรวมถึง ไอโฟน เอ็กซ์เอส  และเอ็กซ์เอส แม็กซ์ ซึ่งไอโฟน เอ็กซ์เอส แม็กซ์ปรับลดราคามากถึง 1,700 หยวน

นายทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทแอ๊ปเปิ้ล อิงค์ กล่าวในช่วงต้นปีนี้ว่า แอ๊ปเปิ้ลมีแผนที่จะปรับลดราคาไอโฟน ซึ่งจะเป็นการปรับลดราคาเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 12 ปี นับตั้งแต่มีการเปิดตัวไอโฟน

การปรับลดราคาดังกล่าว จะมีผลสำหรับตลาดนอกสหรัฐ โดยแอ๊ปเปิ้ลจะปรับโครงสร้างราคาให้มีการตั้งราคาโดยอิงกับสกุลเงินท้องถิ่นของประเทศต่างๆ แทนที่จะอิงกับดอลลาร์ซึ่งแข็งค่าขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่แอ๊ปเปิ้ลจะรับภาระปัจจัยการแข็งค่าของดอลลาร์ แทนที่จะผลักภาระให้ลูกค้า

นักวิเคราะห์ ให้ความเห็นว่า การที่แอ๊ปเปิ้ลอาศัยกลยุทธ์การปรับลดราคาในครั้งนี้ เนื่องจากบริษัทกำลังเผชิญกับยอดขายไอโฟนตกต่ำในประเทศต่างๆ โดยเฉพาะในจีน ซึ่งที่ผ่านมา การที่แอ๊ปเปิ้ลตั้งราคาไอโฟนโดยอิงกับค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งแข็งค่าขึ้น 10% ในปีที่แล้ว ทำให้ผลิตภัณฑ์ของแอ๊ปเปิ้ลมีราคาแพงกว่าคู่แข่ง  และที่ผ่านมา แอ๊ปเปิ้ลเคยปรับลดราคาไอโฟนแค่ 1 ครั้งคือในช่วงหลังจากเปิดตัวไอโฟนในปี 2550 ได้เพียงไม่นาน