‘บลูบิค’ชี้ดิจิทัลดิสรัปชั่นดันธุรกิจที่ปรึกษาโต20%

นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด ผู้ให้บริการที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และการจัดการนวัตกรรมและเทคโนโลยีสัญชาติไทย กล่าวว่า ธุรกิจที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ดิจิทัลในประเทศไทยมีโอกาสเติบโตได้ถึง 20% รับอานิสงส์ดิจิทัลดิสรัปชั่น ซึ่งกระตุ้นให้พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ต้องการบริการแบบเรียลไทม์ ผนวกกับภาคธุรกิจกำลังเผชิญกับภาวะชะลอตัว ส่งผลให้เกิดความต้องการผู้ช่วยเพื่อก้าวสู่ยุคดิจิทัล

โดยโอกาสทางการตลาดมาจากทั้งที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ดิจิทัล(Digital strategy) ที่ปรึกษาด้านข้อมูลขนาดใหญ่(บิ๊กดาต้า) ที่ปรึกษาด้านปัญญาประดิษฐ์(เอไอ) และที่ปรึกษาด้านการบริหารแบบคล่องตัวสูง(Agile management)

เขากล่าวว่า กลยุทธ์บริษัทเน้นทำตลาดองค์กรธุรกิจอุตสาหกรรมการเงิน ประกันภัย โทรคมนาคม และค้าปลีก ชูจุดแข็งที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญด้านการพัฒนากลยุทธ์ดิจิทัลเพื่อการแข่งขันทั้งในปัจจุบันและอนาคต ประกอบด้วยทีมงานที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์ระดับนานาชาติกว่า 120 คน การสร้างผลงานมุ่งเฟ้นหาวิธีการทำงานรูปแบบใหม่ๆ และเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้ามากที่สุดมาประยุกต์ใช้ เพื่อการวางกลยุทธ์ในการสร้างการเติบโตของธุรกิจให้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน ตั้งแต่ต้นน้ำไปถึงปลายน้ำ

ทั้งนี้ ครอบคลุมทั้งการวางกลยุทธ์และการจัดการนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่จะช่วยเติมเต็มความต้องการและสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้บริโภค การวางกลยุทธ์การเติบโต(Growth strategy) การออกผลิตภัณฑ์และบริการใหม่เพื่อพลิกตลาด(Disruptive product ideation) การทำผลิตภัณฑ์นวัตกรรมต้นแบบ(Innovative product prototype) การพัฒนาแอพพลิเคชัน(Application development) รวมไปถึงการวางแผนกลยุทธ์เพื่อนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด(go-to-market strategy) 

ที่ผ่านมาผ่านงานที่ปรึกษาแก่บริษัทชั้นนำในหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจการเงินและประกันภัย โทรคมนาคม อสังหาริมทรัพย์ พลังงาน อุตสาหกรรมยานยนต์ และอุปโภคบริโภค ความสำเร็จที่ได้มาจากความเข้าใจองค์กรและผู้บริโภคไทย มุ่งส่งมอบงานด้วยการเปลี่ยนถ่ายจากความคิดสู่การปฏิบัติได้จริงในธุรกิจ โดยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าและวางยุทธศาสตร์ทางธุรกิจให้แก่องค์กรในหลากหลายอุตสาหกรรมชั้นนำในระดับประเทศและนานาชาติ

ปี 2561 บลูบิค กรุ๊ป เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ดิจิทัลสัญชาติไทยเพียงรายเดียวที่สามารถแข่งขันกับบริษัทที่ปรึกษาต่างประเทศที่มีชื่อเสียงระดับโลกในภูมิภาคนี้ได้ ปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาด 5% ครองอันดับที่ 6 ในตลาด ส่วนปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 40% หรือมีรายได้ประมาณ 224 ล้านบาท

นอกจากนี้ หวังที่ก้าวขึ้นไปเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ดิจิทัลและการจัดการด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีอันดับ 1 ในไทยภายในปี 2567 ปัจจัยจากความเข้าใจความต้องการองค์กรไทยในเชิงลึก สามารถนำโซลูชั่นที่เหมาะสมที่สุดกับตลาดไทยมาปรับใช้

ขณะเดียวกัน มีการลงทุนด้านเทคโนโลยีเชิงลึกใหม่ๆ ผ่านบริษัทสตาร์ทอัพไม่ว่าจะเป็นด้านการออกแบบนวัตกรรม(Design-led innovation), บิ๊กดาต้า, เอไอ, ไอโอที, ฟินเทค, พลังงานสีเขียว, และออมนิแชนแนล ฯลฯ