แนวโน้มลดดอกเบี้ยของเฟด เป็นลบเนื่องจากอาจดึงเงินออกจากตลาดหุ้นในช่วงสั้น

เราประเมินผลกระทบจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่รับรู้ไปในราคาแล้ว และนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายของธนาคารกลางสำคัญๆ จะช่วยรองรับปัจจัยดังกล่าว อย่างไรก็ตามมุมมองตลาดล่าสุดที่ประเมินธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจปรับลดดอกเบี้ยลงในช่วงต่อไป สถานการณ์ดังกล่าวจะชะลอเงินจากตลาดพันธบัตรที่จะเข้าหุ้น ขณะที่จะมีการดึงเงินจากตลาดหุ้นเข้าสู่พันธบัตรเพื่อหวังส่วนต่างราคาจากแนวโน้มอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลง ซึ่งในระยะสั้นจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อการลงทุนในหุ้น (Equity) ได้

ตลาดยังไม่มีปัจจัยหนุนจากการเมืองที่ยังอยู่ในช่วงต่อรองและมีตัวแปรมาก กกต.เตรียมประกาศผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการ 29 มี.ค. ซึ่งเราคาดจำนวนที่นั่งอาจไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก แต่จำนวนส.ส.ที่แท้จริง ยังขึ้นอยู่กับการรับรองการเลือกตั้ง ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นไม่เกิน 9 พ.ค. ดังนั้นบรรยากาศการลงทุนโดยรวมยังขาดปัจจัยสนับสนุน และมีโอกาสกระทบจากปัจจัยภายนอกต่างๆ อาทิ ราคาน้ำมัน และแนวโน้มความกังวลเศรษฐกิจโลกได้

แกว่งตัว 1620-1640 ก่อนขึ้นทดสอบ 1670 จุด สถานการณ์ที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอยู่ในระดับต่ำอีกนาน จะส่งผลบวกต่อกลุ่มการเงิน (เนื่องจากมีดอกเบี้ยเป็นต้นทุน) อาทิ MTC, SAWAD, AEONTS, KTC, TK, GCAP, AMANAH  เรายังชอบหุ้นกลุ่มพลังงาน โรงกลั่น ปิโตรฯ ที่ราคาสะท้อนผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว อาทิ PTT, PTTEP, TOP, BCP, PTTGC, SCC รวมถึง หุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ อาทิ CPF, TU, CPALL, AOT, ERW, MINT,STEC, GPSC, EGCO, BTS, BEM / กลุ่มร.พ. เราชอบ RJH, BCH

ภาพรวมกลยุทธ์: สัญญาณจาก yield curve เรามองอาจทำให้เกิด de-rating ทำให้หุ้นที่มั่นคง, PER ไม่แพง, มีปันผล จะโดดเด่นกว่าหุ้นที่อิงการเติบโตและความคาดหวังที่สูง  // หุ้นแนะนำวันนี้ TU, GPSC, SSP* (เป้า 8.30 ตัดขาดทุน 7.50), SAWAD* (เป้า 55 ตัดขาดทุน 51)

แนวรับ 1620-1625 / แนวต้าน : 1635-1640 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน

กกต.เตรียมประกาศผลคะแนนเลือกตั้งพรุ่งนี้ – กกต.ส่งสัญญาณเตรียมประกาศผลการนับคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. อย่างเป็นทางการ (100%) ในวันที่ 29 มี.ค.นี้ หลังถูกกดดันหนัก

คาดรายได้โต 14% ช่วงสงกรานต์ – ททท.ระบุว่า การเข้าสู่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ (12-16 เม.ย.) คาดสร้างรายได้รวมกว่า 1 หมื่นลบ. (+14% yoy) โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนส่วนหนึ่งจากการผ่อนปรนมาตรการตรวจลงตราการเดินทางผ่านข้ามแดนทางบกและการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าออนอาร์ไรวัลที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง

สหรัฐฯขาดดุลการค้าต่ำสุดในรอบ 5 เดือน – สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขยอดขาดดุลในเดือน ม.ค. ลดลงเกือบ 15% จากผลของตัวเลขส่งออกที่ดีดตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน ขณะที่ ตัวเลขนำเข้าปรับตัวลดลง โดยมีสาเหตุหลักมาจากผลของข้อพิพาททางการค้ากับจีน

Brexit – รัฐสภาอังกฤษลงมติไม่อนุมัติทางเลือกทั้งหมดเกี่ยวกับข้อตกลงการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป ซึ่งรวมถึงการแยกตัวโดยไร้ข้อตกลง (No-deal Brexit) โดยมีมติให้เปลี่ยน deadline จากเดิมที่ระบุไว้วันที่ 29 มี.ค. เป็นวันที่ 12 เม.ย. หรือ 22 พ.ค. ปีนี้

หุ้นที่มีการถือครองต่ำ – สามารถเลือกเก็งกำไรแบบกำหนดจุดตัดขาดทุน MCOT, SAWAD, JMART, SAMART, SINGER, NER, III, PRM, JMT, DCC, SQ, STPI

 

ประเด็นติดตาม: 28 มี.ค. – GDP ไตรมาส 4/61 ของสหรัฐฯ / 29 มี.ค. – ตัวเลขการค้าไทย

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)