บาทอ่อนกดดัชนี

บาทอ่อนกดดัชนี

SET Index เมื่อวานนี้ปรับตัวลงเล็กน้อยไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาค

โดยมีปัจจัยกดดันจากความกังวลเรื่องความไม่ชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล และนักลงทุนต่างชาติกลับมาเป็นขายสุทธิอีกครั้งที่ 2,254 ลบ โดยดัชนี SET Index ปิดที่ 1,629.40 จุด (-2.92 จุด) Volume 4.1 หมื่นลบ. จาก Foreign Net  -2,254.97 ลบ. TFEX Net -3,758 สัญญา และ ตลาดตราสารหนี้ -2,021 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+สหรัฐเผยขาดดุลการค้าลดลงเกือบ 15% ในเดือนม.ค. หลังส่งออกดีดตัว ขณะนำเข้าจากจีนร่วงหนัก

+"ดรากี"ส่งสัญญาณชะลอขึ้นดอกเบี้ย เล็งหามาตรการลดผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยติดลบ

+จีนเล็งหั่นภาษีมูลค่าเพิ่มช่วยกลุ่มธุรกิจนำเข้า หวังช่วยลดภาระด้านภาษี 2.25 แสนล้านหยวนปีนี้

+MSCI ยืนยันใช้ NVDR เข้าไปในการคำนวณดัชนี เริ่มรอบเดือนพ.ค.นี้ ช่วยเพิ่มมาร์เก็ตแคปตลาดหุ้นไทยอีก 8.56 แสนล้านบาท เผยหุ้นได้รับประโยชน์สูงสุดคือ SCC พร้อมเตรียมดัน INTUCH, RATCH, CENTEL, DTAC เข้าคำนวณรอบล่าสุด ส่วน MTC เสี่ยงสูงที่จะหลุด พร้อมปรับเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทย คาดเงินไหลเข้าอีกกว่า 6 หมื่นล้านบาท (ที่มาข่าวหุ้น)

+สศค. เผยก.พ.เศรษฐกิจภูมิภาค นำโดยกทม.ปริมณฑล,ตต.,อีสาน ยังขยายตัวจากบริโภค-ลงทุนเอกชนหนุน/ภาคตอ.-ใต้ ทรงตัว

-ดาวโจนส์ปิดลบ 32.14 จุด เหตุวิตกศก.ถดถอย,ตลาดจับตาเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน

-น้ำมันลดลงจากคลังน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดไว้

+/-รัฐสภาอังกฤษลงมติเปลี่ยนวัน Brexit เป็น 12 เม.ย.หรือ 22 พ.ค. ขณะคว่ำข้อเสนอทางเลือกอื่นทั้งหมด

+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย  YTD 1.45 หมื่นล้านบาท ค่าเงินบาท 31.91 บาท/US

คาดดัชนี SET มีปัจจัยกดดันจากเงินบาทอ่อนค่า ตลาดหุ้นต่างประเทศและตลาดหุ้นภูมิภาคปิดลบ ราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง รวมทั้งการเมืองในประเทศที่ยังไม่แน่นอน โดยมีปัจจัยบวกจาก MSCI มีแนวโน้มปรับเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทย  คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,620-1,640 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้นที่ได้ประโยชน์หลังเลือกตั้ง กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม (WHA AMATA) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (STEC SEAFCO) กลุ่มค้าปลีก (CPALL BJC MAKRO)
  • กลุ่ม Defensive : กลุ่มค้าปลีก(CPALL MAKRO) กลุ่มท่องเที่ยว(AOT CENTEL ERW) กลุ่มรพ.(BCH) กลุ่มโรงไฟฟ้า (EGCO RATCH)
  • ขยายเวลา Visa On Arrival :  AOT  CENTEL ERW

หุ้นแนะนำพิเศษ

BCH ราคาปิด 17.0 บาท Bloomberg Consensus 21.36 บาท

แนวโน้มปี 62 ผบห.ตั้งเป้าเติบโตไม่น้อยกว่า 10% สนับสนุนโดย

          1) จำนวนโควตาผู้ประกันตนจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 61 ราว 80,000 ราย เป็น 8.8 แสนราย +10%YoY เนื่องจากได้รับการรับรอง Good labor practice และการย้ายฐานโควตาผู้ประกันตน จาก รพ.การุญเวช มาที่ รพ.เกษมราษฎร์

          2) WMC จะเปิดศูนย์เด็กหลอดแก้ว IVF ราวเดือน ก.ค.62

          3) รพ.เกษมราษฎร์(รามคำแหง) เปิดให้บริการเมื่อ ต.ค 61 คาดว่าจะสร้างกำไรในปี 62

          4) รับรู้รายได้เต็มปีจากศูนย์เฉพาะทาง 3 ศูนย์ ที่เปิดดำเนินการเมื่อ 4Q61 ที่ รพ.เกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล

          5) อาจมีการกลับรายการหนี้สงสัยจะสูญ ราว 10 ลบ. (รายได้รับที่ยังไม่ได้รับของ รพ.การุญเวช ภายหลังออกจากโครงการประกันสังคม)

ความเห็น มุมมองบวก : เป็นหนึ่งในหุ้น Defensive ที่ไม่ผันผวนตามสภาวะเศรษฐกิจอีกทั้งผลประกอบการปี 62 ยังคงเติบโตดี โดย Bloomberg consensus คาดกำไรปี 62 เฉลี่ย 1,286 ลบ. +18.1%YoY

หุ้นมีข่าว   

·         - DEMCO ยอมรับปี 62 รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายพิเศษโครงการห้วยบง คาดซ่อมฐานกังหันเสร็จใน Q2-Q3/62 หนุนธุรกิจกลับสู่โหมดปกติ

·         + AGE ธุรกิจบริการโตเท่าตัว รายได้ทะยานแตะ 1 พันล้านบาท ด้านบอสใหญ่ "พนม ควรสถาพร" เล็งให้บริการขนส่งทางเรือเต็มแม็กซ์ 24 ลำ ต้นพฤษภาคมนี้ ชี้ธุรกิจถ่านหินไปได้สวย ตุนแบ็กล็อกเต็มมือ 3-4 แสนตัน หวังส่งมอบภายในไตรมาส 2/2562 ดันยอดขายทั้งปีแตะ 1 ล้านตัน (ที่มา ทันหุ้น)

·         +EA เผย "ไมน์ โมบิลิตี คอร์ปอเรชั่น" หรือ MMC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ EA เซ็น MOU กับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนสุวรรณภูมิพัฒนา เพื่อจองสิทธิซื้อรถยนต์ไฟฟ้าและอะไหล่ จาก MMC จำนวน 3,500 คัน เพื่อนำไปจำหน่ายให้กับสมาชิกสหกรณ์ หนุนยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า MINE SPA 1 คึกคัก คาดเริ่มให้บริการแท็กซี่ EV ต้นปี 2563(ที่มาทันหุ้น)

·         + SSP (ราคาปิด 7.75 “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 11.60) ย้ายเข้า SET หวังหุ้นอยู่ในสายตากองทุน-ต่างชาติ แย้มสรุปดีลลงทุนโรงไฟฟ้าใหม่อีก 2-3 โครงการ ไตรมาส 2 นี้ ปักหมุดกำลังผลิต 5 ปี แตะ 400 MW ขณะที่รายได้พุ่งต่อเนื่องครึ่งปีหลังนิวไฮ เหตุ COD โรงไฟฟ้าอีก 66 MW ดันกำลังการผลิตสิ้นปี 2562 แตะ 157 MW จาก 91 MW ยึดคำมั่นเป้า 400 MW ในปี 2566 (ที่มา : ทันหุ้น)

ความเห็น : เรายังคงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 62 ที่ 730 ลบ. +51%YoY เติบโตจากการรับรู้รายได้จากโครงการที่เปิดดำเนินงานในปี 61 เต็มปี ได้แก่ โครงการฮิดากะ โครงการโซเอ็น โครงการโซลาร์รูฟท๊อป 3 โครงการ และโครงการใหม่ที่จะเปิดดำเนินงานในปี 62 ได้แก่โครงการที่มองโกเลีย และโครงการที่เวียดนาม ที่จะทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีกราว 67 MW ส่งผลให้สิ้นปี 62 บริษัทจะมีกำลังการผลิตทั้งสิ้นราว 157 MW

·         + WHA (ราคาปิด 4.18 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 4.80) ได้ฤกษ์เปิดนิคมแห่งที่ 11 WHA ESIE 3 ชลบุรี พร้อมประเดิมเซ็นสัญญาผู้ผลิตยางรถยนต์จีนรายใหญ่ กลุ่มเฉิงชานทันที 285 ไร่ 1 เมษายนนี้ แย้มลูกค้าจ่อคิวอีกเพียบ ทั้งจีน-ญี่ปุ่น มั่นใจผลงานโค้งแรกโตแรง เล็งออกหุ้นกู้ล็อตแรก พฤษภาคมนี้ (ที่มา : ทันหุ้น)

·         WICE ส่งบริษัทย่อย WICE Hong Kong ผนึกพันธมิตรจีน ตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ "WICE LogisticsShenzhen" ให้บริการขนส่งและโลจิสติกส์ในเซินเจิ้นและจีนตอนใต้ปูพรมขยายเส้นทางขนส่งจีน ผู้บริหาร "ชูเดช คงสุนทร" มองแนวโน้มครึ่งปีแรกสัญญาณดี มั่นใจรายได้ปี 2562 โต 25% (ที่มา : ทันหุ้น)