ลุ้นฟื้นตัว จากตลาดอาจกังวลเศรษฐกิจถดถอยมากไป

ลุ้นฟื้นตัว จากตลาดอาจกังวลเศรษฐกิจถดถอยมากไป

ความกังวลรัฐบาลใหม่อาจไม่มีเสถียรภาพ กดดันการลงทุนในประเทศ

สถานการณ์ความเลือกตั้งที่ไม่มีพรรคที่ได้คะแนนเสียงเด็ดขาด ขณะที่พรรคที่ได้อันดับหนึ่งและสอง อ้างความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาลจากจำนวนส.ส.และคะแนนดิบที่ได้รับ ทำให้ตลาดตอบรับเป็นลบ อย่างไรก็ตามบนความเป็นไปได้ของสถานการณ์ ยังให้น้ำหนักพรรคพลังประชารัฐมีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลได้มากกว่าจาก 1) โอกาสเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีที่สูงกว่า 2) เงื่อนไขของการย้ายข้างสนับสนุนของส.ส. ทั้งนี้ประเมินตลาดอาจผันผวนช่วงสั้นจนกว่าจะมีความชัดเจนของการเป็นพันธมิตรร่วมรัฐบาล หรือมีคะแนนเสียงที่มีเสถียรภาพมากพอ

ปัจจัยภายนอก ตลาดอาจกังวลเศรษฐกิจถดถอยมากเกินไป ตลาดกำลังพูดถึงสถานการณ์ที่ผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวน้อยกว่าผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้น (Inverted Yield Curve) และผลการศึกษาในอดีต ที่บ่งชี้ว่าหากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10ปีต่ำกว่า 3เดือน ในอดีต 6 ครั้ง มักตามมาด้วยเศรษฐกิจถดถอยและการปรับตัวลงอย่างมากของหุ้น อย่างไรก็ตามหากแยกพิจารณาเป็นกรณีที่อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยของสหรัฐฯ สูงกว่าระดับส่วนต่างของพันธบัตร 10-2 ปี พบว่าการปรับตัวที่เกิดขึ้นมักจะน้อย ดังนั้นเรามองสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่สัญญาณถดถอย แต่มีโอกาสเกิด de-rating ในหุ้นที่ซื้อขายด้วย PER สูง เรามองการปรับลงเป็นโอกาสลงทุน

แกว่งตัว อาจย่อสั้น ก่อนขึ้นทดสอบ 1670 จุด มองหุ้นไทยที่ขึ้นเพียง 5.3% ขณะที่ภูมิภาคขึ้น 11.3% จะช่วยรับความผันผวนหลังเลือกตั้ง เรายังชอบหุ้นกลุ่มพลังงาน โรงกลั่น ปิโตรฯ ที่ราคาสะท้อนผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว อาทิ PTT, PTTEP, TOP, BCP, PTTGC, SCC รวมถึง หุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ อาทิ CPF, TU, CPALL, AOT, ERW, MINT,STEC, GPSC, EGCO, BTS, BEM / กลุ่มร.พ. เราชอบ RJH, BCH

ภาพรวมกลยุทธ์: ประเมินแม้อาจผันผวนจากผลเลือกตั้ง แต่การย่อยังเป็นโอกาสซื้อ โดยสัญญาณจาก yield curve เรามองอาจทำให้เกิด de-rating ทำให้หุ้นที่มั่นคง, PER ไม่แพง, มีปันผล จะโดดเด่นกว่าหุ้นที่อิงการเติบโตและความคาดหวังที่สูง  // หุ้นแนะนำวันนี้ CPF, GPSC, PRM* (เป้า 7.10 ตัดขาดทุน 6.00), STEC* (เป้า 24.50 ตัดขาดทุน 22.50)

แนวรับ 1610-1620 / แนวต้าน : 1635 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน

ไม่ใช่สัญญาณถดถอย แต่อาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ย – อดีตประธานเฟด นางเจเน็ต เยลเลน ระบุว่า การเกิดภาพของ Inverted yield curve ในขณะนี้ ยังไม่ใช้สัญญาณที่บ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย (recession) แต่มองเป็นสัญญาณที่สะท้อนถึงโอกาสการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในอนาคต

Brexit – สถานิติบัญญัติอังกฤษ จะดำเนินกระบวนการเกี่ยวกับ Brexit แทนที่นายกรัฐมนตรี แต่ผลจะไม่เป็นข้อผูกพันทางกฎหมาย นักลงทุนยังควรติดตามสถานการณ์ลงมติที่น่าจะชัดเจนภายในสิ้นเดือนนี้

IMF เตือนยุโรปเผชิญความเสี่ยงที่สูงขึ้น – IMF ออกโรงเตือนว่า เศรษฐกิจยูโรโซนกำลังเผชิญกับภาวะเสี่ยงที่สูงขึ้นจากหลายปัจจัยลบ โดยเฉพาะการปกป้องทางการค้า และ Brexit พร้อมแนะนำให้สหภาพยุโรปพยายามแก้จุดอ่อนด้านนโยบายให้ได้ก่อนเหตุการณ์ลุกลามจนเกิดภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ (recession)

ผลนับคะแนน สส.เขตอย่างไม่เป็นทางการ – กกต.ประกาศผลการนับคะแนนการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ (95%) โดยพรรคที่มีที่นั่ง สส. มากที่สุด ได้แก่ พท.(137), พปชร. (97), ภท. (39), ปชป. (33), อนค. (30), ปชช. (6), ชทพ. (6), ชพ. (1), และ รปช. (1)

หุ้นที่มีการถือครองต่ำ – สามารถเลือกเก็งกำไรแบบกำหนดจุดตัดขาดทุน MCOT, SAWAD, JMART, SAMART, SINGER, NER, III, PRM, JMT, DCC, SQ, STPI

ประเด็นติดตาม: 28 มี.ค. – GDP ไตรมาส 4/61 ของสหรัฐฯ / 29 มี.ค. – ตัวเลขการค้าไทย

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)