ประชาชน 1.3 แสนคน กลับภูมิลำเนาไปเลือกตั้ง

ประชาชน 1.3 แสนคน กลับภูมิลำเนาไปเลือกตั้ง

ประชาชนแห่กลับภูมิลำเนาไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งทั่วประเทศ ยอดแตะ 1.3 แสนคน บขส. เผยเพิ่มเที่ยวจากปกติเพียง 1,000 เที่ยว ส่วน รฟท. เดินทางกว่า 8 หมื่นคน

เมื่อวันที่ 24 มี.ค.62 นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงบรรยากาศการเดินทางโดยรถไฟของประชาชน เพื่อกลับภูมิลำเนาไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในวันอาทิตย์ที่ 24 มี.ค. 2562 ว่า รฟท. มีความพร้อมในการให้บริการแก่ประชาชนที่กำลังเดินทางกลับภูมิลำเนาไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งทั่วประเทศ โดยได้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่และรถโดยสารไว้คอยอำนวยความสะดวกให้เพียงพอต่อการเดินทางตลอดสุดสัปดาห์ที่มีการเลือกตั้งระหว่างวันที่ 21-23 มี.ค. 2562 ที่ผ่านมา และตลอดช่วงเช้าของวันที่ 24 มี.ค. นี้

สำหรับสถานการณ์เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 2562 ที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) มีประชาชนเดินทางมาโดยสารรถไฟเพื่อเดินทางกลับไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งจำนวนมาก โดยเฉพาะเที่ยวไป ตั๋วรถไฟชั้นหนึ่งและชั้นสองได้ถูกจองล่วงหน้าจนเต็มทุกที่นั่ง ขณะที่ ตั๋วรถไฟชั้นสามได้มีการจองเข้ามาจำนวนมากเช่นกัน แต่ยังไม่หมด ส่วนในเที่ยวกลับก็มีการจองตั๋วในส่วนตั๋วรถไฟชั้นและชั้นสองเต็มทุกที่นั่งเช่นกัน ประมาณการณ์ว่า มีมากกว่า 8-9 หมื่นคนต่อวัน

"การเลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนให้ความสนใจลงคะแนนเสียงเลือกตั้งจำนวนมาก โดยได้เริ่มทยอยเดินทางโดยรถไฟกลับไปลงคะแนนเสียงตั้งแต่คืนวันที่ 21 มี.ค. 2562 และออกเดินทางมากสุดในวันที่ 22-23 มี.ค. 2562 ส่วนวันเดินทางกลับส่วนมากได้จองตั๋วในวันที่ 24 มี.ค. 2562 เพื่อเดินทางกลับทันทีหลังลงคะแนนเสียงเสร็จ แต่บางส่วนก็อาจเลือกเดินทางกลับในวันรุ่งขึ้นในวันที่ 25 มี.ค. 2562"

ทั้งนี้ รฟท. ได้ประเมินว่า การเปิดให้บริการรถโดยสารขบวนปกติทั้ง 242 ขบวนต่อวัน จะเพียงพอรองรับการเดินทางของประชาชนทุกคนในช่วงการเลือกตั้ง โดยไม่มีปัญหาผู้โดยสารตกค้าง เนื่องจากก่อนหน้านี้มีประชาชนบางส่วนก็มีลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าไปแล้ว และมีระยะเวลาเดินทางไปก่อนบางส่วนบ้างแล้ว อย่างไรก็ตาม ในช่วงขากลับเมื่อเสร็จสิ้นเลือกตั้ง รฟท. ยังคาดการณ์ว่า สามารถจัดรถให้บริการได้ตามปกติ เช่นเดียวกับช่วงสงกรานต์ที่มีระยะเวลาเดินทางกลับภูมิลำเนาล่วงหน้า 3-4 วัน จึงมั่นใจว่าจะรับมือคลื่นประชาชนเดินทางกลับในช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้ตามปกติ

บขส. จัดรถเพิ่ม 1,000 เที่ยว

นายจิรศักดิ์ เยาว์วัชสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวว่า จากการสำรวจการเดินทางของประชาชน พบว่า บขส. พร้อมรับมือ โดยเฉพาะช่วงวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา มีประชาชนแห่เดินทางกลับมามากกว่าวันอื่น ๆ แต่โดยภาพรวมแล้ว ช่วงเลือกตั้งนี้พบว่า มีประชาชนใช้บริการรถ บขส. และรถตู้ประมาณ 1.2-1.3 แสนคนต่อวัน โดยวันที่ 22 มี.ค. จำนวนราว 1.3 แสนคน และวันที่ 23 มี.ค. ราว 1.2 แสนคน "ปกติ บขส. จัดรถไว้รองรับประมาณ 6,000 เที่ยว ช่วงเลือกตั้งเพิ่มอีกเพียง 1,000 เที่ยว (รวมรถตู้) ผู้โดยสารเพิ่มจากปกติวันละ 4.5 หมื่นคน เป็น 1.2-1.3 แสนคน แม้จำนวนรถจะมาก แต่ บขส. ยังสามารถบริหารจัดการได้อย่างดี ทั้งสถานีกรุงเทพฯ จตุจักร เอกมัย และขนส่งสายใต้ ประการสำคัญพบว่า ผู้โดยสารรถตู้ในระยะทางใกล้ ๆ จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ในส่วนช่วงขากลับได้จัดเตรียมรถ ขสมก. และรถแท็กซี่ไว้รองรับประชาชนให้เพียงพอเท่านั้น"

ทั้งนี้ สำหรับช่วงเทศกาลสงกรานต์นั้น บขส. คาดการณ์ว่า จะมีผู้โดยสารทยอยเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดต่าง ๆ ทั่วทุกภูมิภาค ตั้งแต่วันที่ 10–13 เม.ย. 2562 โดย บขส. ได้เพิ่มเที่ยววิ่งรถโดยสาร (รถ บขส., รถร่วม, รถตู้) รองรับประชาชนในเที่ยวไป จากปกติวันละประมาณ 6,000 เที่ยว เพิ่มขึ้นประมาณ 3,000 เที่ยว รวม 9,000 เที่ยว สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงถึงวันละ 206,487 คน ส่วนเที่ยวกลับตั้งแต่วันที่ 14-17 เม.ย. 252 บขส. ได้จัดเที่ยววิ่งจากปกติวันละ 6,023 เที่ยว เพิ่มเที่ยวเสริมวันละประมาณ 2,131 เที่ยว รวม 8,154 เที่ยว รองรับผู้โดยสารได้ถึงวันละประมาณ 164,834 คน สำหรับการเดินทางในเที่ยวขากลับ คาดว่า ผู้โดยสารจะทยอยเดินทางด้วยรถตู้โดยสารเป็นจำนวนมาก ทำให้จำนวนเที่ยววิ่งของรถตู้โดยสารเพิ่มสูงขึ้น แต่จำนวนผู้โดยสารลดลง เนื่องจากรถตู้โดยสารมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารได้ไม่เกิน 14 ที่นั่ง/เที่ยววิ่ง

อีกทั้งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ มีผู้ประกอบการนำรถโดยสารไม่จำทาง (รถทะเบียน 30) มาวิ่งให้บริการ เที่ยวไประหว่างวันที่ 10–13 เม.ย. 2562 จำนวน 1,530 คัน และเที่ยวกลับระหว่างวันที่ 14-17 เม.ย. 2562 จำนวน 470 คัน โดยเส้นทางที่มีการนำรถโดยสารไม่จำทาง (รถทะเบียน 30) มากที่สุด ได้แก่ จ.เพชรบูรณ์ แม่สอด อุบลราชธานี หาดใหญ่ และตราด เป็นต้น