สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ วันที่ 18-22 มีนาคม 2562

สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ วันที่ 18-22 มีนาคม 2562

เงินบาทปรับตัวในกรอบแคบ ขณะที่ ดัชนีหุ้นไทยปิดพุ่งขึ้นช่วงปลายสัปดาห์

สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท

-  เงินบาทแกว่งตัวระหว่างสัปดาห์ตามผลการประชุมกนง. และเฟด โดยเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ก่อนจะอ่อนค่าไปที่ 31.97 บาทต่อดอลลาร์ฯ (อ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์) ช่วงกลางสัปดาห์หลังผลการประชุมกนง. ซึ่งมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.75% และมีการปรับลดตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2562 ลง อย่างไรก็ดี เงินบาทดีดตัวกลับมาแข็งค่าในช่วงต่อมา ท่ามกลางแรงขายเงินดอลลาร์ฯ หลังผลการประชุมเฟด โดยเฟดส่งสัญญาณว่า อาจจะไม่มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกในปีนี้ เงินบาทกลับมาเคลื่อนไหวในกรอบแคบอีกครั้งช่วงปลายสัปดาห์ก่อนการเลือกตั้งในประเทศ

- ในวันศุกร์ (22 มี.ค.) เงินบาทอยู่ที่ 31.68 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 31.69 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (15 มี.ค.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (25-29 มี.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.50-31.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยต้องจับตาปัจจัยการเมืองในประเทศ กระแสเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติ และรายงานเศรษฐกิจการเงินเดือนก.พ. 2562 ของธปท. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญ ได้แก่ การเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน การพิจารณาข้อตกลง BREXIT ของรัฐสภาอังกฤษ และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญระหว่างสัปดาห์ ประกอบด้วย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค. ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย ยอดขายบ้านใหม่ รายได้-รายจ่ายส่วนบุคคล และดัชนี Core PCE Price Index เดือนก.พ. ดัชนีราคาบ้านเดือนม.ค.  ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/2561 (ขั้นสุดท้าย)

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย

ดัชนีตลาดหุ้นไทยพุ่งขึ้นจากสัปดาห์ก่อน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับที่ 1,646.29 จุด เพิ่มขึ้น 1.27% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่ มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 2.02% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 39,510.52 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ลดลงเล็กน้อย 0.05% มาปิดที่ 365.37 จุด

- ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงช่วงต้นสัปดาห์ ก่อนจะดีดตัวขึ้นช่วงที่เหลือของสัปดาห์ ทั้งนี้ หุ้นในกลุ่มพลังงานมีแรงหนุนช่วงต้นสัปดาห์ หลังประเทศผู้ผลิตน้ำมันในกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตร ยังยืนยันที่จะดำเนินการตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันต่อไปจนถึงการประชุมเดือนมิ.ย. แม้ว่าจะยกเลิกกำหนดการประชุมในเดือนเม.ย. ก็ตาม นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทย (และตลาดหุ้นต่างประเทศ) ยังได้รับแรงหนุนจากการที่เฟดส่งสัญญาณว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ ประกอบกับมีแรงซื้อจากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติและกลุ่มสถาบันในประเทศในช่วงปลายสัปดาห์

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (25-29 มี.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,640 และ 1,625 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,660 และ 1,675 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ ผลการเลือกตั้งภายในประเทศ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดระดับสูง ความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงการพิจารณาข้อตกลง BREXIT ของรัฐสภาอังกฤษ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนม.ค. ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล รวมถึงดัชนี Core PCE Price Index เดือนก.พ. รวมถึงตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/2561 ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกเดือนก.พ. ของญี่ปุ่น