ภาพรวมเป็นบวก ขณะที่ความผันผวนในประเทศเป็นโอกาสลงทุน โดยเฉพาะพลังงาน

ภาพรวมเป็นบวก ขณะที่ความผันผวนในประเทศเป็นโอกาสลงทุน โดยเฉพาะพลังงาน

ปัจจัยสำคัญหนุนตลาดคือการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางปีนี้

หุ้นสหรัฐฯปรับตัวลดลง ยุโรปบวกเล็กน้อย ขณะที่หุ้นเอเชียเช้านี้ปรับลดลงสะท้อนโอกาสที่การเจรจ้าการค้าจะยืดเยื้อจากปลายเดือน อย่างไรก็ตามปัจจัยหนุนสำคัญสำหรับการลงทุนยังเป็นการดำเนินนโยบายของธนาคารกลาง มุมมองตลาดคาดเฟดคงอัตร่าดอกเบี้ย และโน้มเอียงไปในทางมีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยลงมากกว่าปรับขึ้นในช่วงที่เหลือของปี โดยถ้อยแถลงเฟดคืนนี้ถึงแนวโน้มของการชะลอการลดงบดุลและการดำเนินนโยบายผ่อนคลาย จะยังเป็นปัจจัยสำคัญในการหนุนสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงหุ้นในปีนี้ ส่วนกนง.คาดคงดอกเบี้ยนโยบาย บวกต่อจิตวิทยาการลงทุนในประเทศเช่นกัน

ความไม่แน่นอนของผลเลือกตั้ง เป็นโอกาสซื้อ พลังงานเป็น Catching up play โพลของสื่อและพรรคการเมืองต่างๆ ที่ประเมินความเป็นไปได้ที่พรรคเพื่อไทยและอนาคตใหม่ อาจมีคะแนนเสียงใกล้เคียง 250 ที่นั่ง สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อโอกาสเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทางการเมืองหลังเลือกตั้ง เป็นปัจจัยกดดันระยะสั้น แต่ประเมินเป็นโอกาสซื้อ ทั้งนี้ผลตอบแทนหุ้นไทยนับจากต้นปีอยู่ที่ 3.9% ยังต่ำกว่า MSCI Asia Ex Japan ที่10.2% ทำให้หุ้นไทย โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่เกี่ยวกับการเมือง อาทิ พลังงาน (ขึ้น 5.5% เทียบ ภูมิภาคที่ 13%) มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นตามภูมิภาค (regional catching up play) ได้

แนวต้าน 1,635 ถ้าผ่านอาจยกกรอบขึ้นไป 1640-1670 จุด ยังเลือกเก็งกำไรรายตัว เรายังคงยืนยันภาพการลงทุนโดยรวมมีโอกาสดีขึ้นช่วงปลายเดือน หุ้นขนาดกลางที่มีการถือครองน้อยมีโอกาสถูกเก็งกำไรโดดเด่น นักลงทุนทยอยสะสมหุ้นใหญ่เมื่ออ่อนตัวโดยเรายังชอบหุ้นกลุ่มพลังงาน โรงกลั่น ปิโตรฯ ที่ราคาสะท้อนผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว อาทิ PTT, PTTEP, TOP, BCP, PTTGC, SCC รวมถึง หุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ อาทิ CPF, TU, CPALL, AOT, ERW, MINT,STEC, GPSC, EGCO, BTS, BEM / กลุ่มร.พ. เราชอบ RJH, BCH

ภาพรวมกลยุทธ์: ทยอยสะสมรายตัว หรือเก็งกำไรพลังงานซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องเลือกตั้ง // หุ้นแนะนำวันนี้ PTT, TOP, SAWAD* (เป้า 53.75 ตัดขาดทุน 50)

แนวรับ 1617 / แนวต้าน : 1635-1645 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน

จีน-สหรัฐฯ เตรียมเปิดเจรจาการค้าสัปดาห์หน้า – คณะเจรจาการค้าของสหรัฐฯ-จีน เตรียมจัดเจรจาการค้ารอบใหม่ในสัปดาห์หน้าเพื่อหาทางบรรลุข้อตกลง โดยทั้งสองฝ่ายตั้งเป้าที่จะบรรลุข้อตกลงให้เสร็จสิ้นภายในเดือน เม.ย.นี้

เจรจาซีพี-รฟท. คืบหน้า – ผลลัพธ์การเจรจาระหว่าง รฟท. กับ กลุ่มซีพีและพันธมิตร ในประเด็นรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ออกมาในเชิงบวก และนัดเจรจากันอีกครั้งในสัปดาห์หน้า (28 มี.ค.) คาดว่าจะได้รับข้อสรุปก่อนเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์

มุมมองต่อทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯยังอ่อนแอ – ผลสำรวจ CNBC Fed survey ระบุ เศรษฐกิจสหรัฐฯมีโอกาสชะลอตัวอย่างมากในปีนี้และปีหน้าจากผลกระทบของเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอรวมถึงความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับชาติพันธมิตร

ดัชนีความเชื่อมั่นไทยดูดีขึ้น – หอการค้า รายงาน ดัชนีความเชื่อมั่นของไทย เดือน ก.พ. อยู่ที่ระดับ 48.5 เพิ่มขึ้นจากต่ำกว่า 48 ในเดือน ม.ค. โดยเริ่มดูดีขึ้นในภาพรวมแม้ยังต่ำกว่าระดับมาตรฐานที่ 50

การยื่นมติข้อตกลง Brexit ส่อแววล่มอีกครั้ง – ประธานรัฐสภาอังกฤษ เตือน เทเรซา เมย์ ไม่ให้นำข้อตกลง Brexit ฉบับเดิม เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในสัปดาห์นี้

หุ้นที่มีการถือครองต่ำ – สามารถเลือกเก็งกำไรแบบกำหนดจุดตัดขาดทุน MCOT, SAWAD, SAPPE, JMART, SAMART, SINGER, NER, III, PRM, JMT

ประเด็นติดตาม: 20 มี.ค. – ประชุม กนง. (ปรับคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจไทย) / 21 มี.ค. – BOE meeting / 21 มี.ค. – ผู้นำยุโรปลงมติขยายเวลา Brexit ให้อังกฤษ

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)