ERW - ซื้อ

ERW - ซื้อ

ไพ่เด็ดแห่งหุ้นท่องเที่ยว

ERW จะที่ได้รับประโยชน์เต็มที่จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทยในปี 2562 ทั้งนี้จากการกระจายการลงทุนได้พิสูจน์แล้วว่าประสบความสำเร็จในการทำกำไรแม้จะเป็นช่วงโลว์ซีซัน การประเมินมูลค่าหุ้นคาดว่าจะมีการปรับขึ้นจาก PER ปี 2562 ที่ 28.9 เท่า มาอยู่ที่ 35.0 เท่า (PER ในช่วงไฮซีซัน) จากการคาดการณ์การทำกำไรเป็นสองเท่า YoY ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 และการเข้าซื้อกิจการใหม่ เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 2562 ที่ 8.80 บาท (อ้างอิง 30% จากมูลค่า DCF, 7.9% ที่ WACC)

หลังพายุสงบ ท้องฟ้าสดใสเสมอ

เรามั่นใจอย่างมากว่าราคาหุ้น ERW จะเด้งแรงในปี 2562 หลังจากเกิดอุบัติเหตุเรือล่มในปี 2561 (ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเสียชีวิต) เราได้ศึกษาข้อมูลในอดีต (ในปี 2548-2561) ว่าราคาหุ้นจะฟื้นตัวถึง 90% ในปี 2555 หลังจากเกิดน้ำท่วมในประเทศไทยในปี 2554, 41% ในปี 2557 ช่วงปฏิบัติการปิดกรุงเทพ, 87% ในปี 2560 หลังเหตุระเบิดศาลพระพรหมเอราวัณในปี 2558 และช่วงไว้อาลัยในปี 2559 ดังรูปที่ 1

แนวโน้มการเติบโตของกำไรน่าสนใจ

การเติบโตของกำไรหลักปรับตัวสูงขึ้นจาก 6% ในปี2561 มาอยู่ที่ 16% ในปี 2562 หนุนโดยการประมาณการหลักของเราที่รายได้เติบโต 10% และการขยายตัวของกำไรหลัก 40bps ผู้บริหารตั้งเป้าการเติบโตของรายได้รวมอยู่ 10-15% ในปี 2561 หนุนโดยการเติบโตของรายได้ต่อห้องเฉลี่ยที่ 3-5% (ไม่รวมโรงแรม HOP INN) และโรงแรมใหม่อีก 9 แห่งที่จะเปิดตัวในปีนี้ ทำให้จำนวนห้องพักเพิ่ม 13% ในปี 2562 โดยไม่มีภาระต้นทุนในช่วงครึ่งแรกปี 2562 เนื่องจากโรงใหม่ทั้งหมดนั้นจะเปิดในช่วงครึ่งหลังปี 2562
โดยเป็นโรงแรม HOP INN 5 แห่งในต่างจังหวัดของประเทศไทย, โรงแรมในกรุงเทพ 2 แห่ง โรงแรม Ibis Sukhvumti 24 และ โรงแรม Mercure Sukhumvit 24 โดยในปี 2562 เราคาดว่ากำไรทรงตัว YoY ในไตรมาส 1/62 (ฐานสูงจากกำไรหลักทำสถิติสูงสุดในไตรมาส 1/61) หลังจากนั้นเติบโตอย่างน่าประทับใจ YoY ในไตรมาส 2/62-4/62 เนื่องจากฐานต่ำจากการปรับปรุงโรงแรม JW Marriott ในไตรมาส 2/61-3/61

ตั้งเป้าเติบโตแบบ inorganic

ในวันที่ 26 เม.ย การประชุมผู้ถือหุ้นจะมีมติพิจารณาการเพิ่มทุนผ่านการเสนอขายหุ้นแก่บุคคลในวงจำกัด (PP) จำนวน 250.77 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 10% ของทุนชำระแล้ว หากที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติการเสนอขายหุ้นแบบ PP จะมีอายุหนึ่งปีหลังจากนั้น เหตุผลในการเพิ่มทุนคือการเติบแบบ inorganic ของธุรกิจผ่านการเข้าซื้อกิจการโดยเน้นธุรกิจโรงแรม ด้วยการเสนอขายหุ้นแบบ PP มูลค่า 1.8 พันล้านบาท (คาดที่ราคาหุ้นปัจจุบันที่ 7.20 บาท) เราคาดว่าขนาดของการเข้าซื้อกิจการอยู่ที่ 5.5 พันล้านบาทเสนอขายหุ้นแบบ PP จะเป็นกลยุทธ์ทางพันธมิตรในมุมมองของเรา ทั้งนี้สัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 1.7 เท่า ในปี 2562 มาอยู่ที่ 1.8 เท่า เทียบกับเงื่อนไขทางการเงินที่ 2.5 เท่า แม้จะมี dilution ในระยะสั้น (เราเชื่อว่าต่ำกว่า 10%) แต่การทำข้อตกลงดังกล่าวคาดว่าจะสร้างผลกำไรในระยะยาว

แผนการขยายธุรกิจแข็งแกร่งด้วยการกระจายการลงทุน

ERW จะขยายพอร์ตการลงทุนมาอยู่ที่โรงแรม 90 แห่ง ด้วยจำนวนห้องพัก 10,000 ห้อง ในปี 2563 จากโรงแรม 70 แห่ง ด้วยจำนวนห้องพัก 9,559 ห้อง ในปี 2562 นอกจากนี้การกระจายการลงทุนมุ่งเน้นกลุ่มโรงแรมราคาประหยัด และขนาดกลางในประเทศไทยและฟิลิปปินส์ สัดส่วนโรงแรมราคาประหยัดต่อรายได้คาดว่าจะขยายตัวจาก 53% ในปี 2561 มาอยู่ที่ 57% ในปี 2563 (จาก 60% มาอยู่ที่ 63% สำหรับ EBITDA contribution) หากแบ่งตามภูมิศาสตร์ 58% คิดเป็นโรงแรมในกรุงเทพ ในปี 2563, 37% เป็น
โรงแรมในต่างจังหวัดของประเทศไทยและ 5% จากโรงแรมในอาเซียน (ส่วนใหญ่ในฟิลิปปินส์)