ชะลอ...ก่อนเลือกตั้ง
SET Index วานนี้ปรับตัวลงแรง สวนทางกับตลาดหุ้นภูมิภาค แม้เฟดมีแนวโน้มที่จะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่ถึง
อย่างไรก็ตาม ตลาดภายในประเทศปรับตัวลงจากปัจจัยการเมืองภายในประเทศเกิดความไม่แน่นอน ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,617.57 จุด (-8.00 จุด) Volume 3.8 หมื่นลบ. จาก Foreign Net -1,016.45 ลบ. TFEX Net +1,494 สัญญา และ ตลาดตราสารหนี้ -1,611.98 ลบ.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+ดาวโจนส์ปิดบวก 65.23 จุด รับแรงซื้อหุ้นแบงก์,เทคโนโลยี
+น้ำมัน WTI ปิดบวก 57 เซนต์ หลังโอเปกส่งสัญญาณเดินหน้าลดกำลังการผลิต
+สหรัฐเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านทรงตัวที่ 6.2 ในเดือนมี.ค.
+สำนักข่าวบลูมเบิร์กเปิดเผยถึงผลสำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์บ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพียงครั้งเดียวในปีนี้ในเดือนกันยายน 2562 ซึ่งลดลงจากคาดการณ์ในช่วงก่อนหน้า
+ โอเปกยกเลิกการประชุม 17-18 เม.ย.แต่ยังประชุม 25-26 มิ.ย. ส่งสัญญาณลดการผลิตยาวถึงเดือนมิ.ย. เนื่องจากคาดว่าตลาดยังคงมีภาวะน้ำมันล้นตลาดในช่วง 1H62
+/-รัฐสภาอังกฤษเตรียมโหวตข้อตกลง Brexit รอบ 3 หลังเรียกร้องขยายเส้นตาย
- สื่อคาดนายกฯอังกฤษเลื่อนลงมติข้อตกลง Brexit จนกว่า EU เสร็จสิ้นประชุมซัมมิตระหว่าง 21 – 22 มี.ค.
- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 1.19 หมื่นล้านบาท ค่าเงินบาท 31.66 บาท/US
คาดดัชนี SET วันนี้มีปัจจัยการเมืองในประเทศเป็นปัจจัยหลักที่มีผลต่อตลาด แม้ตลาดหุ้นต่างประเทศและราคาน้ำมันปิดบวก นักลงทุนกังวลต่อผลการเลือกตั้งและการจัดตั้งรัฐบาลจึงมีแนวโน้มชะลอการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,605-1,625 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- กลุ่ม Defensive : กลุ่มค้าปลีก กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มรพ.
- หุ้นได้ประโยชน์จากการเลือกตั้ง : VGI PLANB MACO CPALL MAKRO BJC TKS
- ขยายเวลา Visa On Arrival : AOT CENTEL ERW
หุ้นแนะนำพิเศษ
SKE Analyst meeting มุมมองบวก
- รายงานผลประกอบการปี 61 ที่ 57.3 ลบ. -23%YoY แม้ว่ารายได้จะทรงตัวที่ 325 ลบ. เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาในโครงการก๊าซธรรมชาติอัดและโรงไฟฟ้าไบโอแมสแม่กระทิงเข้ามากดดันผลประกอบการ อีกทั้งมีการรับรู้ผลขาดทุนจากบริษัทย่อยในช่วงทดสอบระบบก่อนเริ่มดำเนินธุรกิจ
- ผู้บริหารคาดแนวโน้มธุรกิจปี 62 จะดีกว่าปี 61 เนื่องจาก 1)ธุรกิจสถานีอัดก๊าซธรรมชาติ (Privated mother station) ได้ปรับราคาขายเพิ่มอีก 2%YoY อีกทั้งคาดว่ากำลังการอัดก๊าซฯ จะเพิ่มขึ้นสูงกว่า 540-550 ตันต่อวัน เนื่องจากสถานีอัดก๊าซฯ ของ ปตท.ที่จ.สระบุรีอาจลดกำลังการผลิตลงหลังจากที่มีการสร้างท่อก๊าซฯ เพิ่มเติม 2)รับรู้รายได้จากโครงการมีเทนอัด (CBG) ซึ่งจะรับรู้รายได้เต็มปีในปีนี้ โดยมีกำลังการผลิต 9 ตันต่อวัน (ปัจจุบันจำหน่าย 3 ตันต่อวัน) โดยมีแผนจะขายก๊าซฯ อัดให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น และ 3) โรงไฟฟ้าไบโอแมสแม่กระทิงกำลังการผลิต 9.9 MW คาดว่าจะ COD ภายใน มิ.ย. 62 นี้ซึ่งจะช่วยหนุนให้ผลประกอบการ 2H62 เติบโตต่อเนื่อง
-ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของ SKE เนื่องจากปี 62 ค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาจะลดลงจากโครงการ CBG ดำเนินการเรียบร้อยแล้วเหลือเพียงค่าใช้จ่ายจากโครงการโรงไฟฟ้าไบโอแมส อีกทั้งปีนี้จะรับรู้รายได้จากโครงการ CBG เต็มปีและใน 2H62 คาดว่าจะรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าแม่กระทิงเพิ่มเติมช่วยหนุนทั้งรายได้และผลประกอบการ ขณะที่ผลตอบแทน YTD ของ SKE อยู่ที่ 3% ทำให้เรามองว่ายังไม่ได้ตอบสนองต่อข่าวบวกมากนัก
หุ้นมีข่าว
BEAUTY Analyst Meeting (ราคาปิด 6.50 ราคาเหมาะสม ฺBloomberg Consensus เฉลี่ย 7.41 มุมมอง Neutral)
· ปี 62 ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้เติบโตอย่างน้อย 20% คาดรายได้จากการส่งออกต่างประเทศเติบโต 100% ผ่านการจัดจำหน่ายโดยตัวแทนไปยัง 15 ประเทศ การเชื่อมต่อช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ โฮมช้อปปิ้ง รวมทั้งการปรับกลยุทธ์การตลาดดิจิตอลโดยใช้บลอกเกอร์และพรีเซนเตอร์ คาด %GP ลดลงจากระดับ 65% ในปี 61 เหลือราว 62% แลกด้วยปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น %SG&A ลดลงจาก 30% ในปี 61 ผู้บริหารประเมินการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนยังไม่ส่งผลบวกชัดเจนต่อผลการดำเนินงานในช่วง 1Q62 ซึ่งตามปกติแล้วกำไรในช่วง Q1 มักจะต่ำสุดรายไตรมาสในทุกปี
· ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมอง Neutral จากคาดแนวโน้มกำไรปี 62 เติบโตไม่มากจากปีก่อนหน้าแม้รายได้ยังเติบโต Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 62 เฉลี่ย 1,141 ล้านบาท +15% คาดว่า Consensus จะปรับลดสมมติฐาน %GP ซึ่งจะส่งผลให้การเติบโตของกำไรเหลือไม่มากนักเมื่อเทียบกับปีก่อน ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยประเมินรายได้และกำไรมีโอกาสกลับมาเติบโตในช่วงครึ่งปีหลังจากการปรับกลยุทธ์การตลาด การมีแพลทฟอร์มช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ๆ และฐานผลการดำเนินงานที่ต่ำในปี 61
· + TM คาดรายได้ปีนี้ทรงตัวช่วงเลือกตั้งกระทบเบิกจ่ายงบล่าช้า ศึกษาตั้งศูนย์ดูแลผู้สูงอายุคาดชัดเจนปีนี้
· + TQM เดินหน้า รุกดิจิทัล เน้น Big Data - Machine Learning หวังดันยอดขาย โต 14% แตะ 1.26 หมื่นล้านบาท และ 1.5 หมื่นล้านบาท ในปี 63 พร้อมส่ง CHAT CENTER ซื้อประกันทุกประเภทแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง
· + TRC รับงานสร้างโรงงานผลิตกลีเซอรีนของ"บางจากไบโอฟูเอล"มูลค่า 389.75 ลบ.
· + DDD คาดสรุปแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในอินโดฯ-เวียดนามปีนี้หวังหนุนยอดขายตลาดตปท.โตในปี 63
· + BEM ที่ประชุมผถห. ลงมติเห็นชอบให้แลกขยายระยะเวลาสัมปทานทางด่วนยุติข้อพิพาท กทพ.
· + SEAOIL แจ้งโครงการลงทุน POES ขุดพบน้ำมันจากหลุม L53 DD-3 ของแหล่ง L53 DD ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี เตรียมดำเนินการขุดเจาะหลุมสำรวจเพิ่ม 3-4 หลุม ในช่วงเดือน ส.ค.-พ.ย. 2562 ตามแผน (ที่มา ข่าวหุ้น)
· - AOT เลื่อนประมูลดิวตี้ฟรี-พื้นที่เชิงพาณิชย์ เพื่อเดินหน้าชี้แจงข้อสงสัย แต่ยืนกรานรวมประมูล 4 สนามบิน สุวรรณภูมิ เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ เป็นสัญญาเดียว ชี้ได้ประโยชน์กว่า เหตุ 3 สนามบินยังขาดทุน คาดใช้เวลาตอบคำถาม 2 สัปดาห์ หวังกันยายนได้ผู้ชนะ ลั่นประมูลดิวตี้ฟรีไม่เข้าข่าย พ.ร.บ.ร่วมทุน(ที่มา ทันหุ้น)
· + AMATA (ราคาปิด 20.70 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus เฉลี่ย 26.94) วางเป้าปี 62 ปั๊มยอดขายที่ดิน 1,005 ไร่ จับตา เม.ย.นี้เซ็นขายที่ดินให้ลูกค้าจีนอีก 28 ไร่ หลัง 2 เดือนแรกโชว์ยอดขายเกือบ 100 ไร่ แถมตุนแบ็กล็อกแน่น 3.6 พันล้านบาท จ่อบุ๊กรายได้ 60-70% ในปีนี้ (ที่มา ข่าวหุ้น)
· + SEAFCO เผยมี.ค.ได้งานใหม่ 4 โครงการ รวมมูลค่า 237 ลบ. เริ่มดำเนินการในเดือนมีนาคม 2562
· AU ("ซื้อเมื่ออ่อนตัว" ราคาปิด 8.00 บาท ราคาเหมาะสม 9.20 บาท) ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 15% จากปีก่อน ตามการขยายสาขาเพิ่ม-ออกผลิตภัณฑ์ใหม่, วางงบลงทุนปีนี้ราว 100-200 ลบ
ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อแผนการเติบโตของบริษัทฯ ทั้งในทิศทางของรายได้และกำไร (กำลังอยู่ในระหว่างจัดทำประมาณการ) อย่างไรก็ตาม ราคาได้ตอบสนองต่อข่าวดังกล่าวไปเรียบร้อยแล้ว YTD ปรับตัวขึ้น 33% เทียบกับอุตสาหกรรมที่โตเพียง 20% ปัจจุบันซื้อขายที่ PE สูงถึง 44.3 เท่า จึงแนะนำ "ซื้อเมื่ออ่อนตัว"