ตำรวจฝรั่งเศสรวบผู้ชุมนุมม็อบเสื้อกั๊กเหลืองกว่า200คน

ตำรวจฝรั่งเศสรวบผู้ชุมนุมม็อบเสื้อกั๊กเหลืองกว่า200คน

ตำรวจฝรั่งเศสจับกุมตัวประชาชนกว่า 230 คนหลังม็อบเสื้อกั๊กเหลืองในกรุงปารีสเริ่มรุนแรงและลุกลาม ทั้งปล้นร้านค้าและใช้ก้อนหินขว้างปาสร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินของราชการ

ตำรวจฝรั่งเศสได้จับกุมตัวประชาชนกว่า 230 รายในกรุงปารีสเมื่อวันเสาร์ (16มี.ค.)ที่ผ่านมา เนื่องจากกลุ่มผู้ประท้วงเสื้อกั๊กสีเหลืองได้เข้าถล่มร้านค้าบริเวณถนนฌองส์ เอลิเซ และปะทะกับตำรวจที่ใช้แก็สน้ำตาและปืนฉีดน้ำ เนื่องจากผู้ประท้วงได้จุดไฟเผาแผงขายหนังสือพิมพ์ ปล้นร้านค้า และใช้ก้อนหินขว้างปา

ประธานาธิบดีเอ็มมานูแอล มาครง ของฝรั่งเศส ได้ยกเลิกการพักร้อนที่รีสอร์ททางตอนใต้ของฝรั่งเศส และเดินทางกลับปารีสหลังเกิดเหตุ พร้อมให้คำมั่นว่า จะดำเนินการเพื่อป้องกันเหตุรุนแรงดังกล่าวไม่ให้เกิดขึ้นอีก

การเดินขบวนประท้วงของกลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองซึ่งปะทุขึ้นจากความไม่พอใจเกี่ยวกับการขึ้นภาษีเชื้อเพลิงลุกลามไปสู่การประท้วงความไม่เท่าเทียมกันในสังคมและชนชั้น ซึ่งระหว่างการชุมนุมประท้วง กลุ่มผู้ชุมนุมได้ทุบตีเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจล และทุบทำลายรถตำรวจด้วย ทั้งยังมีรายงานว่า ความรุนแรงเกิดขึ้นทันทีที่กลุ่มผู้ชุมนุมมารวมตัวกันแถว ๆ ประตูชัย

ร้านอาหารยอดนิยมแห่งหนึ่งถูกผู้ประท้วงพากันทุบทำลายทรัพย์สิน และต่อมาก็ถูกจุดไฟเผา เช่นเดียวกับร้านบูติกหรูหลายแห่งแถวถนนชองเซลิเซ่ ที่ก็ถูกทุบทำลายและปล้นสะดมภ์ ขณะที่ซุ้มต่าง ๆ และธนาคาร 1 แห่งก็ถูกจุดไฟเผาด้วย

มองกันว่าการประท้วงหนักในครั้งนี้เป็นเสมือนการทดสอบพลังของกลุ่มเสื้อกั๊กเหลือง หลังจากที่เริ่มประท้วงกันมาตั้งแต่เดือนพ.ย. เพื่อประท้วงการขึ้นภาษี ที่ลุกลามมาเป็นการประท้วงขับไล่ประธานาธิบดีมาครงในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และการประะท้วงได้ลดขนาดลงมาก แต่ล่าสุดคือเมื่อวันเสาร์ ประเมินกันว่ามีผู้เข้าร่วมชุมนุมทั่วประเทศประมาณ 32,000 คนโดยในกรุงปารีสมีประมาณ 10,000 คน แม้จะเทียบไม่ได้กับจำนวนเกือบ300,000 คนเมื่อเดือนพ.ย. แต่ก็ถือว่ามากกว่าสัปดาห์ก่อน ๆ อยู่มาก