'สุวัจน์' ชูรัฐบาล ชพน. แก้ปัญหาเศรษฐกิจรากหญ้า

'สุวัจน์' ชูรัฐบาล ชพน. แก้ปัญหาเศรษฐกิจรากหญ้า

"สุวัจน์" ชวนคนไทยออกมาใช้สิทธิ์ทะลุ 51 ล้าน รับรองประเทศไทยไม่มีขาดทุน ชี้รัฐบาลจากการเลือกตั้ง คือกุญแจสำคัญที่สุดที่จะทำให้เศรษฐกิจดี

เมื่อวันที่ 16 มี.ค. 62 เวลา 18.00 น. ที่ จ.พิษณุโลก นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา ลงพื้นที่ปราศรัยหาเสียงเพื่อชี้แจงนโยบาย และแนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส. อาทิ พ.อ.อารีย์ ชูศรี เขต 1 เบอร์ 12 , นายธวัชชัย กันนะพันธุ์ เขต 2 เบอร์ 9 , นายพิพัฒน์ พันมา เขต 4 เบอร์ 5 และ น.ส.เพ็ญแข คงเพชรศักดิ์ เขต 5 เบอร์ 1 โดยก่อนเดินทางไปปราศรัยที่สนามกีฬากลาง นายสุวัจน์พร้อมคณะแวะตลาดบึงพระเพื่อพบปะพี่น้องประชาชนที่มารอให้กำลังใจนับพันคนที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

นายสุวัจน์ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนอยากเห็น คือ เศรษฐกิจดี โดยเฉพาะราคาพืชผลทางการเกษตร เพราะพี่น้องเกษตรกรและพ่อค้าแม่ค้าได้รับความเดือดร้อนหนัก แม้ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ หรือ จีดีพี จะดี โต 4% แต่กระจุกตัวอยู่เฉพาะคนบางกลุ่มเท่านั้น ดังนั้น หากพรรคได้เข้ามาเป็นรัฐบาล สิ่งแรกที่จะทำ คือ แก้ปัญหาเศรษฐกิจรากหญ้า

อีกเรื่องที่พี่น้องประชาชนอยากเห็น คือ การเมืองต้องสงบ ไม่อยากเห็นความขัดแย้งทางการเมือง หรือชุมนุมประท้วง เพราะเสถียรภาพทางการเมืองนิ่งเมื่อไร เศรษฐกิจจะดีตามไปด้วย เพราะเมื่อการเมืองนิ่ง จะดึงดูดต่างประเทศมาลงทุนและเกิดการสร้างงาน ย่อมส่งผลทำให้การส่งออกดีตามไปด้วย

"ดังนั้น พรรคชาติพัฒนาจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นและความแน่นอนทางการเมือง คือ การเมืองต้องไม่ทะเลาะ เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะทำให้เศรษฐกิจกลับมาดี หลังเลือกตั้งเศรษฐกิจจะดีขึ้นหรือไม่ หรือการเมืองดีขึ้นหรือไม่ ผมให้ความมั่นใจได้เลยว่า หากวันที่ 24 มี.ค. ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เยอะๆ เอาให้ทะลุ 51 ล้านคนที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง รับรองประเทศไทยไม่มีขาดทุน ไม่ว่าพรรคไหนชนะหรือแพ้ แต่เมื่อมีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง คือ กุญแจสำคัญที่สุดที่จะทำให้เศรษฐกิจดี รับรองบรรยากาศการลงทุนจะดีแน่นอน" นายสุวัจน์ กล่าว

นายสุวัจน์ กล่าวว่า จ.พิษณุโลก พรรคชาติพัฒนา ส่ง 5 เขต สำหรับนโยบายเศรษฐกิจของพรรคที่จะมาพัฒนา จ.พิษณุโลก คือ พรรคสนับสนุนให้มีรถไฟความเร็วสูง และมอเตอร์เวย์ ให้เกิดขึ้นทั่วประเทศ โดยเฉพาะต้องมายัง จ.พิษณุโลก เพื่อต่อไปยัง จ.เชียงใหม่ ถือเป็นการสร้างความเจริญ ทำให้อนาคต กทม. มา จ.พิษณุโลก ใช้เวลาเพียงชั่วโมงกว่า เมื่อการเดินทางสะดวกสบาย ย่อมจะทำให้พิษณุโลกกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวและการลงทุนขึ้นมาทันที ดังนั้น ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจถึงนโยบายเศรษฐกิจของพรรค

นายสุวัจน์ กล่าวว่า อีกนโยบายที่จะสนับสนุน จ.พิษณุโลก คือ สร้างรถไฟรางคู่ต้องทั่วประเทศ เพื่อทำให้การเดินทางโดยรถไฟสะดวกรวดเร็วและทั่วถึง เพื่อสร้างโอกาสในการขนส่งสินค้าการเกษตร ถือเป็นการลดช่องว่างและความเหลื่อมล้ำ สิ่งที่จะตามมา คือ ดึงดูดนักลงทุน โดยจะขยายนิคมอุตสาหกรรมมาที่ จ.พิษณุโลก เพราะปัจจุบันในภาคเหนือมีเขตนิคมอุตสาหกรรมที่ จ.พิจิตร ดังนั้น อนาคตต้องมาที่ จ.พิษณุโลก ด้วย เพื่อยกระดับราคาพืชผลทางการเกษตรและการท่องเที่ยว

"วันนี้ประชาชนรอให้ใครมาแก้ปัญหา ทางพรรคจึงเสนอตัวนำนโยบายของน้าชาติมาแก้ปัญหาด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจอุตสาหกรรม พร้อมกับขยายโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระจายงาน กระจายการลงทุน ถือเป็นแนวทางที่จะประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาความยากจน" นายสุวัจน์ กล่าว

นายสุวัจน์ กล่าวอีกว่า นโยบายการเมือง คือ พรรคจะทำให้การเมืองหยุดทะเลาะกัน โดยพรรคชาติพัฒนาจะทำการเมืองแบบพรรคนักกีฬา คือ รู้จักแพ้ รู้จักชนะ และรู้จักให้อภัย โดยจะพัฒนาการกีฬาให้เป็นพื้นฐานสำคัญของคนในชาติ เพราะการเมืองที่ขัดแย้งในวันนี้ เพราะไม่มีใจเป็นนักกีฬา เล่นการเมืองกันนอกสภา ไม่รอการเลือกตั้ง และไม่ฟังเสียงข้างมาก เพราะประชาธิปไตย คือ การเคารพเสียงข้างมาก และฟังเสียงของประชาชน การเมืองต้องจบในสภา ดังนั้น พรรคชาติพัฒนา ไม่มีปัญหา No Problem โปรดเลือกพรรคชาติพัฒนา