นายกฯ ยันรบ. ลุยค้าออนไลน์ ชี้ตลาดอีคอมเมิร์ซไทยโตสุดอาเซียน

นายกฯ ยันรบ. ลุยค้าออนไลน์ ชี้ตลาดอีคอมเมิร์ซไทยโตสุดอาเซียน

นายกฯ ยันรัฐบาลลุยค้าออนไลน์ ส่งเสริมเต็มที่ ขอทุกคนเรียนรู้และปรับตัว ชี้ตลาดอีคอมเมิร์ซไทยโตสุดอาเซียน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวกับประชาชนผ่านรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ในวันศุกร์ที่ 15 มีนาคม 2562 เวลา 20.15 น. เกี่ยวกับส่งเสริมการค้าออนไลน์ของรัฐบาล ความว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับนโยบายการพัฒนาขับเคลื่อนธุรกิจออนไลน์ ภายใต้ ไทยแลนด์ 4.0 ทั้ง ดิจิตอลออนไลน์ และการพัฒนาวิจัยนวัตกรรม เป็นตัวเพื่อเสริมที่จะนำพาไปสู่ 4.0 เพราะโลกกำลังเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมผู้บริโภค พฤติกรรมการผลิตเปลี่ยนไป คนรักความสะดวกสบายมากขึ้น จึงต้องมาเพิ่มการขายออนไลน์ เพราะการตลาดออนไลน์ทำให้เกิดความเท่าเทียมของคนทุกคน ทุกกิจการให้มีโอกาสที่เท่าเทียมกัน รัฐบาลจึงให้ความสำคัญทั้งกฎหมายเท่าเทียมกันเป็นกฎหมายฉบับเดียวกัน  

โครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพทางดิจิตอล มีอินเทอร์เน็ตประชารัฐ 75,000 แห่ง เพื่อทุกหมู่บ้านทั่วประเทศสามารถเข้าถึงบริการภาครัฐ ขยายโครงสร้างพื้นฐานให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เช่น เคเบิ้ลใยแก้วนำแสง ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้ว 25,000 กิโลเมตร เชื่อมต่อทวีปเอเชีย แอฟริกา และยุโรป รวมทั้งการก่อสร้างโครงสร้างการคมนาคมขนส่งอีก 2.4 ล้านล้านบาท ที่พัฒนาทั้งทางบก ทางทะเล ทางอากาศ ท่าเรือ ในการขนคน ขนสินค้า และเคลื่อนย้ายทรัพยากรบุคคลเข้ามาทำงานในประเทศไทย เปิดตลาดต่าง ๆ ให้มากยิ่งขึ้น สำหรับผู้ค้าก็สามารถเพิ่มช่องทางการทำธุรกิจ สร้างการรับรู้กับผู้บริโภคใหม่ ยังขยายไปยังระบบ Logistics เพื่อการกระจายวัตถุดิบและการขนส่งสินค้าอย่างรวดเร็วอีกด้วย

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงศักยภาพของตลาดออนไลน์ว่า การค้าขายของออนไลน์มีการเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในอาเซียน เพราะโครงสร้างพื้นฐานมีความพร้อม ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเติบโตเกือบ 4 เท่าจาก 10 ปีที่ผ่านมา เมื่อปี 2551 จำนวน 9.3 ล้านคน และปี 2561 มีจำนวนเพิ่มสูงถึง 45 ล้านคน มูลค่า e-commerce  ยังคงเติบโตต่อเนื่อง ปี 2560 ประมาณ 2.8 ล้านล้านบาท และปี 2561 พุ่งสูง 3.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% ซึ่งไทยมีมูลค่า e-commerce สูงสุดในอาเซียนอยู่ที่  25,000 ล้านเหรียญสหรัฐโดยประมาณ

ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็ให้ความสำคัญในการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน ส่งเสริมการรวมกลุ่มของชาวบ้าน นำอัตลักษณ์มาใช้เป็นประโยชน์ พัฒนาผลิตภัณฑ์แฮนด์เมดต่างๆ โดยรัฐบาลจะสนับสนุนให้เป็นสินค้าโอทอป จัดตั้งศูนย์ดิจิตอลชุมชนมีอยู่ 7,000 – 8,000 ศูนย์ ให้ชุมชนเข้ามาเรียนรู้ เช่น เรื่องเกษตร หรือเรื่องการประกอบการ SMEs สนับสนุนการศึกษาผ่านเว็บไซต์ราชการและเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องยกระดับวิสาหกิจชุมชน เพื่อไปสู่การค้าออนไลน์ โดยรัฐบาลมีการจัดอบรมให้กับผู้สนใจจำนวน 3,000 กว่าราย

ในตอนท้ายรายการฯ นายกรัฐมนตรียังได้เชิญชวนให้ผู้ประกอบการออนไลน์ เข้ามาศึกษาเว็บไซต์ไทยเทรด ดอท คอม (Thaitrade.com) ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกผู้ขายที่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติกว่า 20,000 ร้านค้า มีผู้ใช้บริการจากทั่วโลก 5.6 ล้านราย ซึ่งผู้สนใจสามารถเข้ามาดูรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลสินค้าส่งออกไทย ผู้ซื้อ ผู้ขาย ทั้งการบริการในรูปแบบการค้า B2B และการค้ารายย่อยหรือค้าปลีกได้ที่เว็บไซต์ ไทยเทรด ดอท คอม (Thaitrade.com) ของกระทรวงพาณิชย์ 

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้ให้หลักคิดว่า การลงทุนขอให้นึกถึงหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อเป็นภูมิคุ้มกันในการลงทุนด้วย