GULF - ซื้อ

GULF - ซื้อ

ปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย — โครงการมากมายอยู่ในกำมือ

ผลงานที่ผ่านมาของ GULF พิสูจน์แล้วว่า GULF มีความสามารถในการขยายธุรกิจตามแผน ซึ่งโครงการมากมายภายใต้แผนการขยายของ GULF ณ วันนี้ มีมูลค่ามหาศาล เราจึงเชื่อว่าการเข้าซื้อหุ้น GULF เพิ่มในขณะที่ราคาหุ้นยังไม่แพง เป็นทางเลือกที่ดีกว่าการรอให้ทุกอย่างชัดเจน (เราคาดว่าอย่างน้อย GULF จะชนะการประมูลหลายโครงการ) ดังนั้นเราได้สะท้อนมูลค่าบางส่วนของโครงการที่อาจจะเกิดขึ้นเข้าสู่ประมาณการ และปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2562 ประเมินด้วยวิธี DCF จาก 87 บาท มาอยู่ที่ 108 บาท โดย
GULF เป็นหุ้นที่เราชอบที่สุดในกลุ่มโรงไฟฟ้า IPP

มีโอกาสสูงที่จะชนะการประมูลโรงไฟฟ้า และ โครงการมาบตาพุดเฟส 3...

เนื่องจากแผนพัฒนากาลังผลิตไฟฟ้า (PDP) ฉบับใหม่ อาจมีการประมูลโรงไฟฟ้า IPP กาลังผลิต 700MW ในภาคตะวันตก 2 โรง ภายในปี 2562 ซึ่งหากพิจารณาจากผลงานที่ผ่านมาของ GULF ในการประมูลโรงไฟฟ้า IPP 2 รอบล่าสุดแล้ว (ในปี 2550 และปี 2556) จะพบว่า GULF มีโอกาสสูงมากที่จะชนะการประมูลครั้งใหม่นี้ (ซึ่งจะคิดเป็นอัพไซด์ต่อราคาเป้าหมายของเราราว 7 บาทต่อโรง) นอกเหนือจากการประมูลโรงไฟฟ้า IPP แล้ว แผน PDP ใหม่ยังมีการอ้างอิงถึงการรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานน้าในประเทศลาวอีก 5 โครงการ ซึ่งมี 2 โครงการที่มีโอกาสที่จะเซ็นสัญญาในเร็วๆนี้ สอดคล้องกับข้อมูลที่เราได้รับจากการประชุมนักวิเคราะห์ครั้งล่าสุดว่า บริษัทฯ อาจร่วมมือกับบริษัทจากประเทศจีนในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้าในประเทศลาว ทั้งนี้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้า 1 โครงการจะคิดเป็นอัพไซด์ต่อราคาเป้าหมายราว 6-7 บาท

นอกเหนือจากโครงการโรงไฟฟ้าที่อาจจะเกิดขึ้นแล้ว หาก GULF และ PTT ชนะการประมูลโครงการมาบตาพุด เฟส 3 ก็จะคิดเป็นการอัพไซด์ต่อราคาเป้าหมายของเราอีก 5 บาท

… และยังมีโอกาสขยายกำลังผลิตในต่างประเทศ ...

บริษัท Oman Oil และ Kuwait Petroleum International กำลังก่อสร้างโรงกลั่นในเขตเศรษฐกิจพิเศษ Duqm ในประเทศโอมาน (โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ GULF เป็นผู้พัฒนาโรงไฟฟ้า) และมีแผนจะพัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรเคมีเพิ่มเติมในอนาคต โดยหน่วยงานที่กำกับดูแลเขตเศรษฐกิจพิเศษ Duqm คาดว่าพื้นที่ดังกล่าวจะมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงถึง 500-1,000 MW ในอนาคต ดังนั้น GULF จึงมีโอกาสในการขยายกำลังการผลิตในพื้นที่ดังกล่าวได้อีกมาก โดยทุกๆ 300MW ที่ GULF สามารถขยายกำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่มได้ (GULF ถือหุ้น 45%) จะคิดเป็นอัพไซด์ต่อราคาเป้าหมายราว 2 บาท

GULF มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าสำหรับโซลาร์ฟาร์มในประเทศเวียดนามแล้วและกำลังขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เราประเมินว่าการบริโภคไฟฟ้าที่เติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศเวียดนามจะส่งผลให้ GULF มีโอกาสเข้าไปพัฒนาโรงไฟฟ้าก๊าซในอนาคต (อัพไซด์ต่อราคาเป้าหมายอีก 3 บาท)

... ส่งผลให้เราปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย

ผลงานที่ผ่านมาของผู้บริหารเป็นเครื่องยืนยันว่า GULF จะสามารถชนะการประมูลโรงไฟฟ้าและการพัฒนาโครงการอื่นๆได้ตามเป้าหมาย ดังนั้นเราจึงเชื่อมั่นอย่างมากว่าโครงการที่กล่าวมาข้างต้นหลายโครงการจะกลายเป็นสินทรัพย์ในการดำเนินงานในอนาคต (ซึ่งอาจได้เห็นความชัดเจนของบางโครงการในเร็วๆนี้) ดังนั้นเราจึงได้ปรับใช้วิธีการถ่วงน้าหนักความน่าจะเป็น และรวมมูลค่าบางส่วนของโครงการดังกล่าวเข้ามาอยู่ในราคาเป้าหมายของเรา (ดูเพิ่มเติมใน Figure 7) ส่งผลให้เราปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2562 จาก 87 บาทมาอยู่ที่ 108 บาท ทั้งนี้ระดับราคาในปัจจุบันของ GULF ยังอยู่ในระดับที่ไม่แพง หากประเมินจากมูลค่าตลาด (Market value) ต่อ MWe (เฉพาะโครงการที่ได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแล้ว) ซึ่งอยู่ที่ 28 ล้านบาทต่อ MWe ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงฟอสซิลที่เราให้คำแนะนำที่ 29 ล้านบาทต่อ MWe จึงยังเป็นโอกาส ในการเข้าซื้อเพิ่ม