ตร.เร่งสอบ '2แพทย์' เอี่ยวยาลดอ้วนฉาว หากผิดโทษคุก 5-20 ปี

ตร.เร่งสอบ '2แพทย์' เอี่ยวยาลดอ้วนฉาว หากผิดโทษคุก 5-20 ปี

ตำรวจ ปส. เร่งสอบ "แพทย์" จาก2ใน9ราย เอี่ยวยาลดอ้วนเข้าข่ายความผิด จ่อแจ้งข้อหาจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท โทษคุก 5-20 ปี และข้อหาสมคบกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.มาตรการฯยาเสพติด

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ร่วมกับทาง อย. เข้าจับกุมกลุ่มนายทุนที่ลักลอบนำยาลดความอ้วนออกมาจำหน่ายจากสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาตตามขั้นตอนของ อย. ก่อนขยายผลพบว่า แพทย์จำนวนหนึ่งมีส่วนร่วมในการเบิกจ่ายยาดังกล่าว กระทั่งตำรวจทำการเชิญตัวแพทย์รวมทั้งหมด 9 ราย เข้าให้ข้อมูลถึงการกระทำ โดยในกลุ่มมีแพทย์จำนวน 2 รายที่อาจมีส่วนร่วมกับขบวนการของกลุ่มทุนด้วยนั้น

เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2562 ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.) พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส. กล่าวถึงความคืบหน้าว่า ภายหลังจากเมื่อวันนี้(14 มี.ค.) ทางพนักงานสอบสวนได้ทำการออกหมายเรียกนายแพทย์ จำนวน 7 ราย จากคลินิกในพื้นที่ภาคเหนือและอีสาน เข้าให้การในฐานะพยาน และมีบางรายสมัครใจเข้ามาเอง ก่อนปล่อยตัวไปโดยไม่แจ้งข้อกล่าวหา ทางเราก็ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับเส้นทางที่มาของยา พบว่า ได้มีแพทย์จากเครือข่าย 2 ราย ชักชวนหว่านล้อมกลุ่มแพทย์ดังกล่าว ให้สั่งซื้อยาลดความอ้วน โดยอ้างว่าจะนำมาจ่ายให้กับผู้ป่วยในคลินิกอีกแห่งหนึ่งที่มีความต้องการจำนวนมาก ซึ่งแพทย์ที่ถูกชักชวนก็เกิดความหลงเชื่อ และไม่ได้ลงไปตรวจสอบยังคลินิกดังกล่าวเอง จึงเบิกจ่ายผ่านทางเจ้าหน้าที่คณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ก่อนนำไปขายให้กับแพทย์ที่สั่งไว้ ทั้งนี้เนื่องจากทาง อย. จะมีระเบียบกำหนดให้แพทย์ 1 ราย ที่มีใบประกอบวิชาชีพ และทำกิจการคลินิกซึ่งได้รับการจัดทะเบียน จะสามารถสั่งยาชนิดนี้ เพื่อจ่ายให้กับคนไข้ที่ป่วยเป็นโรคอ้วน ที่ประสงค์จะรักษาอาการ ได้จำนวน 5,000 เม็ดต่อเดือน

พล.ต.ต.พรชัย กล่าวว่า ภายหลังจากที่แพทย์ได้สั่งยามาจาก อย. เพื่อนำไปขายต่อให้กับแพทย์ในเครือข่าย ปรากฎว่า ยาดังกล่าวได้ถูกนำออกจากระบบและไปจำหน่ายบนช่องทางอินเตอร์เน็ต หรืออื่นๆ ซึ่งมีราคาสูงกว่าปกติอย่างมาก ทั้งยังอาจเกิดอันตรายต่อผู้ป่วยได้ เนื่องจากไม่มีแพทย์มีวินิจฉัยอาการ จึงอาจรับประทานยาผิดขนาดจนอันตรายถึงชีวิต

พล.ต.ต.พรชัย กล่าวต่อว่า ยังมีรายละเอียดบางส่วนที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ และจากการติดตามกลุ่มขบวนการในลักษณะนี้มาตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2561 คาดว่าไม่ได้มีเพียงกลุ่มเดียว ซึ่งจะต้องดำเนินการสอบปากคำและตรวจสอบเงินรายได้ของแพทย์ มาประกอบพฤติการณ์ ว่าจะมีเครือข่ายในระดับสั่งการขึ้นไปอีกหรือไม่ ส่วนแพทย์ 2 ราย ที่ถูกออกหมายเรียกให้เข้าพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 19 มีนาคมนี้ จากการติดตามมีข้อมูลว่า ได้มีส่วนร่วมกับขบวนการมานานพอสมควร ทั้งยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับตัวยามากกว่าแพทย์รายอื่นๆ พร้อมกันนี้ จะมีการประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสืบหาว่า อาจมีชาวต่างชาติเข้ามามามีส่วนร่วมขบวนการด้วยหรือไม่ต่อไป

มีรายงานว่า หากแพทย์ทั้ง 2 ราย ได้เข้าให้ปากคำแล้วพบว่ามีลักษณะที่เข้าข่ายความผิด ทางเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา ฐานจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 (เฟนเตอร์มีน) และประเภท 4 (ไดอาซีแพม,คลอราซีเพท) มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี และข้อหาสมคบการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.มาตรการฯยาเสพติด