ราคาน้ำมันดิบดีดตัวทำนิวไฮรอบ 4 เดือน

ราคาน้ำมันดิบดีดตัวทำนิวไฮรอบ 4 เดือน

ขานรับโอเปกลดกำลังการผลิตและสต็อกน้ำมันสหรัฐรวมทั้งการผลิตน้ำมันดิบปรับตัวลดลง

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันพฤหัสบดี(14มี.ค.)ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน โดยได้ปัจจัยหนุนจากการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และการที่สหรัฐคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของอิหร่านและเวเนซุเอลา นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยบวกจากการร่วงลงของสต็อกน้ำมันดิบ และการผลิตน้ำมันของสหรัฐ

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ หรือ 0.51% สู่ระดับ 58.56 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ปิดที่ 67.23 ดอลลาร์/บาร์เรล

โอเปก ออกรายงานคาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันอยู่ที่ระดับ 30.46 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ โดยลดลง 130,000 บาร์เรล/วันจากที่มีการคาดการณ์ไว้ในเดือนที่แล้ว และต่ำกว่าระดับการผลิตของโอเปกในปัจจุบัน ส่วนการผลิตน้ำมันลดลง 221,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.พ. ซึ่งหมายความว่า สมาชิกโอเปกให้ความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตสูงถึง 105%

เมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว โอเปกและกลุ่มประเทศนอกโอเปก นำโดยรัสเซีย เห็นพ้องกันที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.2 ล้านบาร์เรล/วันเพื่อป้องกันการทรุดตัวของราคาน้ำมัน ขณะที่แหล่งข่าวระบุว่า โอเปกมีแนวโน้มขยายช่วงเวลาการปรับลดกำลังการผลิตเกินกว่าเดือนมิ.ย.

ทั้งนี้ โอเปกและประเทศพันธมิตรมีกำหนดจัดการประชุมเพื่อพิจารณานโยบายการผลิตน้ำมันในวันที่ 17-18 เม.ย. และ 25-26 มิ.ย.นี้

ด้านสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 3.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 4.6 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าลดลง 3.5 ล้านบาร์เรล

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่บริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 9 แท่น สู่ระดับ 834 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว