'มธบ.' จับมือ 'ออมสิน' ระดมไอเดียพัฒนาชุมชนคลองศาลากุลเกาะเกร็ด

'มธบ.' จับมือ 'ออมสิน' ระดมไอเดียพัฒนาชุมชนคลองศาลากุลเกาะเกร็ด

"มธบ." จับมือ "ออมสิน" ร่วมพัฒนาชุมชนคลองศาลากุลเกาะเกร็ด จ.นนทบุรี ระดมไอเดียเพิ่มศักยภาพมูลค่าสินค้า บริการ แหล่งท่องเที่ยว ตั้งเป้าสร้างรายได้และความยั่งยืนสู่ชุมชน

เมื่อวันที่ 14 มี.ค.62 ดร.ศิริเดช คำสุพรหม คณบดีวิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.) เปิดเผยว่า ธนาคารออมสิน ร่วมกับ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ จัดทำโครงการ ออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น เพื่อส่งเสริมให้นักศึกษานำความรู้ที่ได้เรียนจากภาคทฤษฎีมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาศักยภาพชุมชน ทั้งในด้านของมูลค่าผลิตภัณฑ์และบริการ อันจะนำไปสู่การพัฒนารายได้และความเป็นอยู่ของชุมชนอย่างยั่งยืน

โดยทางมหาวิทยาลัยได้เลือกชุมชนคลองศาลากุล ต.เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เป็นชุมชนกลุ่มเป้าหมาย เนื่องจากเป็นชุมชนที่กำลังมีการเติบโตและต้องการองค์ความรู้ในการพัฒนาต่อยอดให้มีความยั่งยืน โดยพื้นที่ของชุมชนนี้ตั้งอยู่คนละฟากกับกับชุมชนปากเกร็ดเดิมซึ่งธุรกิจมีการเจริญเติบโต ผลประกอบการดีและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว ดังนั้น ทางมหาวิทยาลัยจึงสนใจที่จะพัฒนาชุมชนปากเกร็ดในอีกฟากหนึ่ง เพื่อให้มีศักยภาพเพียงพอหรือเทียบเท่ากับอีกฝั่งของปากเกร็ด

9512931959357

ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยได้เสนอการเพิ่มศักยภาพในโครงการทั้งหมด 7 โครงการย่อย ประกอบด้วย ชุมชนกระเป๋าผ้า กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปสมุนไพรและเบเกอรี่ ( 2 ผลิตภัณฑ์ ) กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านนางรำ ( 2 ผลิตภัณฑ์ ) กลุ่มวิสาหกิจชุมชนดอกไม้ผ้าใยบัว และกลุ่มเกษตรกรทำสวนเกาะเกร็ด โดยเบื้องต้นมหาวิทยาลัยได้นำนักศึกษาลงพื้นที่เพื่อสำรวจและรับทราบปัญหา ความต้องการของชาวบ้านในชุมชนเพื่อนำข้อมูลกลับมาวางแผนในการเพิ่มศักยภาพของชุมชนได้ตรงตามความต้องการ โดยพบว่าส่วนหนึ่งชุมชนต้องการให้พัฒนาออกแบบบรรจุภัณฑ์สินค้าให้มีความทันสมัย พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย ยกระดับสินค้าชุมชนให้มีความน่าสนใจมากขึ้น รวมไปถึงสินค้าประเภทบริการ และการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวให้เชื่อมโยงจากอีกฟากของปากเกร็ดกก็เป็นส่วนสำคัญ เพราะหากช่วยให้นักท่องสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวยังอีกฟากฝั่งได้อย่างง่ายดาย ก็จะเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับชุมชนแห่งนี้ได้อีกด้วย

9512936421251

ดร.ศิริเดช กล่าวอีกว่า การลงพื้นที่จะทำให้นักศึกษาได้เห็นสภาพที่แท้จริงของธุรกิจ เป็นการเปิดโอกาสให้ได้ฝึกการทำงานจริง โดยมีคณาจารย์เป็นที่ปรึกษาตลอดระยะเวลาดำเนินการ 9 เดือน และมีนักศึกษาร่วมโครงการประกอบด้วย วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี หลักสูตรการจัดการและการเป็นผู้ประกอบการ หลักสูตรการตลาดสาขาการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน และคณะศิลปกรรม รวมทั้งหมดกว่า 30 คน ซึ่งจะร่วมกันเสนอแผนธุรกิจการพัฒนาศักยภาพชุมชนในวันที่ 27 มีนาคมนี้ก่อนนำไปสู่การปฏิบัติจริง โดยตั้งเป้าสร้างรายได้และความยั่งยืนสู่ชุมชนอย่างยั่งยืน

9512937862322