IVL - ซื้อ

IVL - ซื้อ

มุ่งหน้าเข้าสู่ช่วงพีคของไฮซีซัน; แนวโน้มอนาคตสดใส

ช่วงไฮซีซันของผลิตภัณฑ์สายโพลีเอสเตอร์ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ส่วนต่างราคาซึ่งปรับตัวสูงขึ้นตามปัจจัยทางฤดูกาลและการเติบโตของปริมาณขายคาดว่าจะหนุนกำไรหลัก QoQ ตลอดช่วงครึ่งแรกของปี 2562 นอกจากนี้ช่วงวัฏจักรขาขึ้นของผลิตภัณฑ์สายโพลีเอสเตอร์และสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูงที่เพิ่มขึ้น จะหนุนภาพกำไรในระยะยาว (และการเข้าซื้อกิจการในอนาคตจะเป็นอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรในอนาคต) ทั้งนี้หุ้น IVL ซื้อขายที่ PER ปี 2562 เพียง 9.3เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 16.5 เท่า ซื้อ!

ช่วงไฮซีซันเริ่มต้นขึ้นแล้ว, ช่วงพีคของซีซันกำลังจะมาถึง

ไตรมาสแรกของแต่ละปีปฏิทินโดยปกติจะเป็นจุดเริ่มต้นของอุปสงค์ในช่วงไฮซีซันสำหรับผลิตภัณฑ์สายโพลีเอสเตอร์ โดยเฉพาะสำหรับเม็ดพลาสติก PET อุปสงค์จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนถึงจุดสูงสุดในไตรมาส 2/62 เราคาดว่าปริมาณขาย PET ของ IVL จะขยายตัว QoQ (และ YoY) จนถึงไตรมาส 2/62 ทั้งนี้ช่วงไฮซีซันและการกำหนดราคาใหม่สำหรับลูกค้าตามสัญญา (คิดเป็นประมาณ 70% ของปริมาณขายในตะวันตก) คาดว่าจะหนุนส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ QoQ (และ YoY) ในช่วงเวลาดังกล่าว

นอกจากปัจจัยทางฤดูกาลการรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากโรงงาน PTA(โปรตุเกส), โรงงาน PET (บราซิลและอียิปต์), ผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์มูลค่าสูง,โรงงาน PET preform และโรงงานเส้นใยสำหรับยานยนต์มูลค่าสูง และการกลับมาเริ่มผลิตของโรงงาน PTA และ PET ในเนเธอร์แลนด์ (จากเหตุสุดวิสัยในไตรมาส 4/61) จะเป็นปัจจัยหนุนกำไรในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 ดังนั้น กำไรหลักของ IVL มีแนวโน้มขยายตัว QoQ จนถึงไตรมาส 2/62

วัฏจักรขาขึ้นของผลิตภัณฑ์สายโพลีเอสเตอร์

ตลาดผลิตภัณฑ์สายโพลีเอสเตอร์ (PTA และ PET) เริ่มเข้าสู่วัฏจักรขาขึ้นตั้งแต่ปี 2561 และตัวเลขของอุตสาหกรรมบ่งชี้ว่าจะต่อเนื่องจนถึงปี 2563 หนุนโดยการเติบโตของอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในขณะที่การขยายกำลังการผลิตลดลง อุปสงค์สำหรับ PTA คาดว่าจะเติบโตรวดเร็วกว่าการเพิ่มขึ้นของอุปทานใหม่เป็นจานวน 4.9 ล้านตันในช่วงปี 2562-63 (อุปสงค์เติบโตเร็วกว่าการขยายตัวของอุปทานเพียง 0.9 ล้านตันในปี 2560-61) นอกจากนั้นการเติบโตของอุปสงค์ PET คาดว่าจะสูงกว่าอุปทานที่เพิ่มขึ้น 0.3 ล้านตันในปี 2562-63 (อุปทานเพิ่มขึ้นมากกว่าการเติบโตของอุปสงค์ 0.7 ล้านตันในปี 2560-61)  ดังนั้น ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์สายโพลีเอสเตอร์คาดว่าจะขยายตัว YoY ในปี 2562-63 หรืออย่างน้อยทรงตัว จากการเป็นผู้ผลิต PET รายใหญ่ที่สุดในโลก IVL จะได้รับประโยชน์อย่างมากจากช่วงวัฏจักรขาขึ้นของผลิตภัณฑ์สายโพลีเอสเตอร์

การขยายการเติบโตของหน่วยธุรกิจใหม่หนุนอัตรากำไร

นอกจากการสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจผลิตภัณฑ์สายโพลีเอสเตอร์หลักที่มีอยู่ บริษัทยังมีการขยายธุรกิจหน่วยธุรกิจใหม่ 3 หน่วย (ส่วนใหญ่ผ่านการเข้าซื้อกิจการ) ได้แก่ ธุรกิจโอเลฟินส์, ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ และธุรกิจเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษการขยายธุรกิจจะส่งผลให้ปริมาณขายเติบโตและเพิ่มความสามารถในการทำกำไร เนื่องจากสามธุรกิจดังกล่าวโดยปกติมีอัตรากำไรสูงกว่ากลุ่มโภคภัณฑ์ ตัวอย่างเช่น EBITDA margin เฉลี่ยในช่วงปี 2559-61 อยู่ในช่วง 40-50% สำหรับธุรกิจโอเลฟินส์, 16-20% สำหรับธุรกิจบรรจุภัณฑ์และ 10-15% สำหรับธุรกิจเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ เปรียบเทียบกับ EBITDA margin เฉลี่ยของ IVL ที่ 12% ในช่วงเวลาเดียวกัน เราประมาณการเบื้องต้นว่าสัดส่วน EBITDA โดยรวมของสามธุรกิจนี้จะเพิ่มขึ้นจาก 30% ของ EBITDA โดยรวมในปี 2561 มาอยู่ที่ 47% ในปี 2564 ซึ่งจะหนุน EBITDA margin โดยรวมให้ปรับตัวสูงขึ้น