เปิดปูมโบอิง 737 แม็กซ์
ทั่วโลกกำลังสั่งห้ามเครื่องบินโบอิง 737 แม็กซ์ขึ้นบิน ทั้งๆ ที่เป็นเครื่องบินยอดนิยม กรุงเทพธุรกิจขอพามารู้จักกับโบอิง 737 แม็กซ์ให้ชัดๆ
เมื่อเดือน ม.ค. โบอิง บริษัทการบินยักษ์ใหญ่จากสหรัฐคาดการณ์ว่า ปี 2562 บริษัทจะส่งมอบเครื่องบินและทำกำไรได้มากเป็นประวัติการณ์ อานิสงส์จาก 737แม็กซ์ ซึ่งเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุด
แต่ผ่านไปไม่ถึง 2 เดือน โบอิงกับเจอวิกฤติหนักสุดอีกครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์บริษัท สืบเนื่องจากเครื่องบินรุ่น 737 แม็กซ์ 8 ประสบอุบัติเหตุใกล้ๆ กัน 2 ครั้ง ส่งผลให้สายการบินและนานาประเทศเข็ดขยาดสั่งห้ามบิน
โบอิง 737 แม็กซเปิดตัวเมื่อเดือน พ.ค.2560 แข่งกับแอร์บัส เอ320 นีโอ ที่ทำให้แอร์บัส บริษัทเครื่องบินยุโรป แซงหน้าโบอิงได้ในตลาดเครื่องบินพิสัยกลาง
แม็กซ์ยังแยกย่อยเป็น 4 รุ่น ตามขนาดบรรทุกผู้โดยสาร ได้แก่ แม็กซ์7, 8, 9, และ 10
รุ่นแม็กซ์ 8 ราคาลำละ 121.6 ล้านดอลลาร์ ปีที่แล้วทำกำไรให้โบอิงได้ 1 ใน 3 ของกำไรทั้งหมด
ภายในสิ้นเดือน ม.ค. ยอดคำสั่งซื้อมาแล้ว 4,661 ลำ คิดเป็น 80% ของออร์เดอร์ทั้งบริษัท
แต่ละเดือนโบอิงผลิตแม็กซ์ได้ 52 ลำ ปีนี้วางแผนเพิ่มเป็นเดือนละ 57 ลำ ทำให้ส่งมอบได้ 895-905 ลำในปีนี้ ซึ่งจะเป็นการทุบสถิติ
นักวิเคราะห์กล่าวว่า 737 แม็กซ์ เผลอๆ อาจเป็นรุ่นที่สำคัญที่สุดสำหรับโบอิงและซัพพลายเออร์
นับจนถึงขณะนี้ยังไม่มีสายการบินใดยกเลิกออเดอร์แม็กซ์อย่างเป็นทางการ แต่รายงานข่าวระบุว่า ไลอ้อนแอร์เล็งใช้แอร์บัสแทนแม็กซ์ 8
“สิ่งที่โบอิงทำได้ในตอนนี้คือทุ่มเททรัพยากรทุกอย่างเพื่อร่วมมือกับคณะกรรมการสอบสวน เดินหน้าประสานงานกับลูกค้าในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของแม็กซ์”
ถ้ายกเลิกออเดอร์แม็กซ์ผู้ที่จะได้รับผลกระทบมีทั้ง พนักงานโบอิง 150,000 คน และซัพพลายเออร์แม็กซ์ทั้งทางตรงและทางอ้อม ประกอบด้วย จีอีและซาฟราน เจ้าของบริษัทร่วมทุนซีเอฟเอ็ม ผู้ผลิตเครื่องยนต์ LEAP ให้กับแม็กซ์ รวมไปถึงบริษัทสหรัฐ ได้แก่ ยูไนเต็ดเทคโนโลยีส์ (ผลิตเซ็นเซอร์) และสปิริตแอโรซิสเต็มส์ (ผลิตส่วนลำตัวเครื่องและห้องนักบิน)