รัฐสภาอังกฤษลงมติคว่ำข้อตกลงเบร็กซิท

รัฐสภาอังกฤษลงมติคว่ำข้อตกลงเบร็กซิท

สมาชิกสภาสามัญชนของอังกฤษลงมติด้วยคะแนนเสียง 391-242 เสียงคว่ำข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (เบร็กซิท) ที่นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ทำไว้กับผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) เมื่อวานนี้

รัฐสภาอังกฤษยังคงปฏิเสธข้อตกลงเบร็กซิท แม้ว่าเมื่อวานนี้ นางเมย์ได้รับความเห็นชอบจากผู้นำอียู ให้ทำการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงเบร็กซิท โดยมีผลผูกพันทางกฏหมาย ซึ่งรวมถึงนโยบาย backstop ซึ่งเป็นนโยบายในการรับประกันว่า จะไม่มีการกลับไปใช้มาตรการควบคุมชายแดนอย่างเข้มงวดระหว่างไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร และสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นรัฐสมาชิกของสหภาพยุโรป

อย่างไรก็ดี นายเจฟฟรีย์ ค็อกซ์ อัยการสูงสุดของอังกฤษ เตือนว่า ความเสี่ยงทางด้านกฎหมายต่อข้อตกลงเบร็กซิทยังคงมีอยู่ แม้ข้อตกลงดังกล่าวได้รับการปรับปรุงแก้ไขหลังจากที่นางเมย์ทำการเจรจากับผู้นำอียูเมื่อคืนนี้

นายค็อกซ์ระบุว่า ข้อตกลงเบร็กซิทไม่ได้ช่วยให้อังกฤษมีช่องทางตามกฎหมายในการยกเลิกนโยบาย backstop แต่เพียงฝ่ายเดียว หากไม่ได้รับการอนุมัติจากอียู

ครั้งนี้ นับเป็นความพ่ายแพ้ของนางเมย์เป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ รัฐสภาอังกฤษได้ลงมติด้วยคะแนนเสียงถล่มทลาย 432 ต่อ 202 เสียงในเดือนม.ค. คว่ำร่างข้อตกลงเบร็กซิทของนางเมย์ ส่งผลให้นางเมย์เป็นผู้นำรัฐบาลอังกฤษที่ประสบความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ที่สุดในรัฐสภาในรอบ 95 ปี

ขั้นตอนต่อไป รัฐสภาจะลงมติในวันพุธ(13มี.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น ว่าจะเห็นชอบต่อการที่อังกฤษแยกตัวออกจากอียู โดยไร้ข้อตกลงหรือไม่ ซึ่งหากรัฐสภามีมติไม่เห็นชอบ ก็จะลงมติในวันพฤหัสบดี (14มี.ค.)ว่าจะเรียกร้องให้อียู ขยายกำหนดเวลาการแยกตัวจากเดิมในวันที่ 29 มี.ค.หรือไม่ ซึ่งหากรัฐสภามีมติเรียกร้องให้อียู ขยายกำหนดเวลาออกไป รัฐบาลก็จะต้องทำการเจรจากับ อียู ในเรื่องดังกล่าว แต่หากรัฐสภามีมติไม่เรียกร้องให้อียู ขยายกำหนดเวลาออกไป อังกฤษก็จะแยกตัวจากอียูอย่างเป็นทางการตามกำหนดเดิมในวันที่ 29 มี.ค.