เลือกเล่นรายตัว

เนื่องจาก นักลงทุนส่วนใหญ่เกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลง นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลง ยังกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานภายในประเทศ ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,630.12 จุด (-3.09 จุด) Volume 3.4 หมื่นลบ. จาก Foreign Net  -524.11 ลบ. TFEX Net -9,363 สัญญา และ ตลาดตราสารหนี้ -175 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+สหรัฐเผยตัวเลขเริ่มต้นสร้างบ้านพุ่ง 18.6% เกินคาดในเดือนม.ค.

+ดัชนี CPI จีนเดือนก.พ.ขยายตัว 1.5% ชะลอลงจากเดือนม.ค.

-ดาวโจนส์ปิดลบ 22.99 จุด เหตุนักลงทุนผิดหวังข้อมูลจ้างงาน

-น้ำมัน WTI ปิดลบ 59 เซนต์ เหตุวิตกศก.โลกชะลอตัวกระทบอุปสงค์น้ำมัน

-สหรัฐเผยจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐเพิ่มขึ้น 20,000 บาทแต่ต่ำกว่าคาดในเดือนก.พ. ขณะว่างงานร่วงลงสู่ 3.8%

-ประธานเฟดเผยจะใช้แนวทางรอดูในการกำหนดนโยบายการเงินสหรัฐ วางแผนลดงบดุลต่อเนื่อง

-สนง.ศุลกากรจีนเผยยอดส่งออกเดือนก.พ.ร่วง 20.7%,นำเข้าลดลง 5.2% เทียบรายปี

- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 5.5 พันล้านบาท ค่าเงินบาท 31.73 บาท/US

**12 มี.ค. รัฐสภาอังกฤษมีกำหนดลงมติต่อข้อตกลง Brexit ของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ

คาดดัชนี SET วันนี้มีแนวโน้มแผ่วลงเนื่องจากตลาดหุ้นต่างประเทศและราคาน้ำมันปิดลดลง  ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาแผ่วลงปัจจัยใหม่แต่ก็สนับสนุนว่าเฟดจะยังไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้  ปัจจัยที่ต้องจับตาอยู่ที่การเมืองที่ใกล้วันเลือกตั้ง  คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,620-1,640 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• FTSE Large Cap : HMPRO GULF EA MINT MAKRO BEM DIF
• FTSE Mid Cap : MTC GPSC

         * HMPRO MTC มีผลตอบแทน YTD น้อยกว่าดัชนี

• หุ้นได้ประโยชน์จากการเลือกตั้ง : VGI PLANB MACO CPALL MAKRO BJC TKS
• ขยายเวลา Visa On Arrival : AOT  CENTEL ERW
• High Dividend : KAMART SIRI SNC ORI DIF BTSGIF SC MC AIT QH KKP TKS

หุ้นแนะนำพิเศษ

PRM Analyst Meeting ราคาปิด 6.10 บาท “มุมมองบวก”

• รายงานรายได้ และกำไรปี 61 เท่ากับ 4,479 ลบ. และ 746.4 ลบ. ตามลำดับ ทรงตัวYoY แม้ว่ารายได้หลักจากธุรกิจเรือขนส่งและจัดเก็บน้ำมันดิบ (Floating Storage Unit : FSU) ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 1,396 ลบ. -29%YoY (สัดส่วนรายได้ลดลงมาที่ 31% จาก 43% ในปี 60) จากอัตราค่าบริการปรับตัวลดลงถึง 26%YoY ประกอบกับปี 60 มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนถึง 98 ลบ. ขณะที่ปี 61 มีกำไรดังกล่าวเพียงแค่ 8.2 ลบ. อย่างไรก็ตาม รายได้ที่ลดลงถูกชดเชยด้วยธุรกิจ Domestic Trading ที่เพิ่มขึ้นสู่ 1,898 ลบ. +40.3%YoY จากการเข้าซื้อกิจการ Big Sea ทำให้สัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 42% จาก 30% ในปี 60
• แนวโน้มปี 62 ผบห. ตั้งเป้ารายได้ราว 5,000 ลบ. เติบโต 11.6%YoY สนับสนุนด้วย

1) ธุรกิจ Domestic Trading: เพิ่มเรือลำใหม่ 6 ลำ (Expansion 3 ลำ และ Replacement 3 ลำ) โดย 3 ลำ เริ่มดำเนินการใน 2Q62 และอีก 3 ลำเริ่มดำเนินการใน 3Q61

2) ธุรกิจ FSU: เพิ่มจำนวนเรือ 2 ลำ เริ่มดำเนินการใน 2Q62 พร้อมกับปรับเพิ่มอัตราค่าบริการ และ %U.rate ที่ 100% ทุกลำ

• มุมมองบวก : คาดจะเห็นการเติบโตของรายได้และกำไรในปี 62 จากฐานต่ำในปีที่ผ่านมา ประกอบกับการเติบโตจากการลงทุนขยายกองเรือเพิ่ม นอกจากนี้ อนาคตธุรกิจ FSU จะได้รับอานิสงส์รับลูกค้าเพิ่มขึ้น จากการปรับเกณฑ์ IMO 2020 ทำให้ผู้ค้าน้ำมันเริ่มกักเก็บน้ำมันประเภท Low Sulphur มากขึ้น นอกจากนั้น อัตราส่วน D/E Ratio ยังอยู่ในระดับต่ำที่ 0.58 เท่า รองรับ Target CAPEX ในอนาคต ที่ 3,000 ลบ.ต่อปี ปัจจุบัน P/E อยู่ที่ระดับ 21.4 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ -2SDxPE ซึ่งอยู่ที่ระดับ 23.8 บริษัทฯ ประกาศจ่ายปันผล 0.14 บาทต่อหุ้น คิดเป็น Yield 2.3% XD 26 เม.ย. วันจ่าย 15 พ.ค.

ส่องหุ้น

        HARN      แนวรับ 2.62-2.60 บาท        แนวต้าน 2.66 , 2.70-2.74 บาท

        SQ          แนวรับ 2.30 บาท                แนวต้าน 2.36 , 2.42-2.44 บาท

        AUCT      แนวรับ 6.45 บาท                แนวต้าน 6.65 , 6.95 บาท

หุ้นมีข่าว   

XO Analyst Meeting (มุมมองบวก ซื้อ ราคาเหมาะสม 13.90)

·         ผบห.ตั้งเป้ารายได้ปี 62 เติบโต 10-15% สู่ 1,200 - 1,300 ลบ. สนับสนุนด้วย 1) ปรับราคาขายตั้งแต่ 2H61 ขึ้นราว 3%  และ2)มีการขยายตลาดใหม่อย่างต่อเนื่องอาทิ ออสเตรเลีย และยุโรปตะวันตก ด้านอัตรากำไรขั้นต้นบริษัทคาดจะปรับตัวขึ้นสู่ 40% เนื่องจากได้ทำการซื้อวัตถุดิบล่วงหน้าไปแล้วทั้งน้ำตาลและกระเทียม(ถึงปี 63) นอกจากนี้คาดว่าการใช้กำลังการผลิตของโรงงานใหม่จะเพิ่มขึ้นจาก 55% สู่ 70% ภายในปลายปี 62 ส่งผลให้เกิดการประหยัดจากขนาดเพิ่มขึ้น

·         บริษัทประกาศจ่ายปันผลครึ่งปีหลัง 0.75 บาทต่อหุ้น(ครึ่งปีแรกปันผล 0.12 บาทต่อหุ้นรวมปี 61 จ่ายปันผล 0.87 บาทต่อหุ้นหรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทน 7.5%ต่อปี ) ซึ่งคิดเป็น payout ratio 147% เนื่องจากในปีนี้คาดว่าจะได้เงินจากการใช้สิทธิ์วอแรนต์เข้ามาอีกราว 195 ล้านบาท ขณะที่บริษัทแทบไม่มีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย และมีแผนใช้เงินลงทุนในปี 62 เพียง 130 ล้านบาทเพื่อขยายเครื่องจักรที่ใช้ในการดองพริกจึงทำให้สามารถจ่ายปันผลได้สูง โดยในปี 62 คาดว่าการจ่ายเงินปันผลจะกลับสู่ภาวะปกติที่ payout ratio 50%

·         ความเห็น เรายังคงมุมมองบวกต่อผลประกอบการในปี 62 หากบริษัทสามารถสร้างการเติบโตของยอดขายได้ตามเป้า เนื่องจากจะเพิ่มการประหยัดจากขนาดซึ่งส่งผลดีต่อกำไรสุทธิ อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารส่วนใหญ่เป็นต้นทุนคงที่ทำให้อัตรากำไรสุทธิจะเติบโตได้สูงกว่าการเติบโตของรายได้ โดยฝ่ายวิจัยประมาณการณ์กำไรปี 62 อยู่ที่ราว 247 ล้านบาท เติบโต 11%YoY

EA analyst meeting (ราคาปิด 47.25 บาท Bloomberg consensus 63.54 บาท )

·         รายงานกำไรปี 61 ที่ 4,975 ล้านบาท +30%YoY โดยรายได้เติบโต 7%YoY สู่ 12,490 ล้านบาท โดยได้แรงหนุนจากการรับรู้รายได้เต็มปีจาก 4 โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 278 MW และ 3 โรงไฟฟ้าพลังงานลม 126 MWขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้นจาก 48% สู่ 54% จากโรงไฟฟ้าทั้งพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมสามารถผลิตไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้น

·         บริษัทมองหาการเติบโตใหม่มาทดแทนธุรกิจไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมที่คาดว่า adder จะหมดภายในอีก 2-3 ปี โดยบริษัทมีแผนขยายการลงทุนอีก 3 โปรเจค 1)โครงการผลิต PCM ซึ่งเป็นฉนวนกันความร้อนที่ผลิตจากของเสียของการผลิต Biodiesel 2)ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ MINE และ 3) ผลิตและจำหน่ายเรื่อขนส่งมวลชนไฟฟ้า

·         ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมอง Neutral ต่อการเติบโตในอนาคตของ EA เนื่องจากหาก adder หมดลงจะส่งผลให้รายได้และกำไรของบริษัทหดตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่การเติบโตจากโครงการใหม่ยังอยู่ระหว่างช่วงลงทุนและยังไม่สามารถทำการผลิตในเชิงพาณิชย์ได้

·         + PTTEP เผยพบก๊าซธรรมชาติ-คอนเดนเสทในผลสำรวจหลุม Orchid-1 ในออสเตรเลีย เตรียมวางแผนพัฒนาต่อไป

·         + JUBILE (อยู่ระหว่างปรับประมาณการเชิงลบ) มองกำลังซื้อปี 62 ดีขึ้น พร้อมชูนวัตกรรมสินค้าเพิ่มฐานลูกค้าทั้งไทย-ต่างชาติ (ที่มา อินโฟเควสท์)

·         + MAJOR เตรียมรับทรัพย์หนังยอดมนุษย์ Captain Marvel ทุบสถิติมีรายได้เปิดตัววันแรกสูง 37 ล้าน แถมมี Avenger : Endgame จ่อคิวฉายต่อ คาดทำรายได้แรงไม่แพ้กัน หนุนงบรวมปีนี้เบิกบานด้วยมุมมอง รายได้ กำไร ปกติเติบโตต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)

·         GPSC ปรับราคาซื้อหุ้น GLOW จาก Engie เป็น 91.9906 บ./หุ้น จากเดิม 94.892 บ./หุ้น พร้อมทำเทนเดอร์ฯราคาเดียวกัน ราคาซื้อขายอาจปรับลดลงได้อีกเป็นจำนวนเท่ากับเงินปันผลจ่ายต่อหุ้นของหุ้น  GLOW (ที่มา อินโฟเควสท์)