NETBAY - ซื้อ

 NETBAY - ซื้อ

ผู้เชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิตัล

ในขณะที่หลายธุรกิจกำลังถูกคุกคามจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากเทคโนโลยี แต่ NETBAY กลับเป็นบริษัทที่จะเติบโตไปกับเทรนด์ของการเปลี่ยนแปลงทีเกิดขึ้น บริษัทไม่จำเป็ นที่จะต้องพยายามออกจากทะเลไปจับปลา แต่ปลาจะกระโดดขึ้นมาบนเรือเอง ตั้งแต่เริ่มต้นให้คำแนะนำหุ้น NETBAY เราเห็นได้ชัด ว่านักลงทุนจำนวนมากยังไม่เข้าใจธุรกิจในระดับ ที่ดีพอ ในรายงานฉบับนี้ เราได้พยายามอธิบายภาพบริษัท และศักยภาพ รวมถึงโอกาสของการเติบโตของบริษัทในด้านลึกยิ่งขึ้น

จาก 1 เป็น 3 และเพิ่มขึ้นต่อไปในอนาคต

เริ่มแรก NETBAY ได้ให้บริการเฉพาะ Service app ด้าน e-Logistics สำหรับผู้ส่งออก, ผู้นำเข้า และบริษัทที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานโลจิสติกส์ต่อจากนั้นบริษัทได้เปิดตัวการให้บริการ e-Business (อุตสาหกรรมการให้บริการทางการเงิน) ซึ่งพัฒนาจากการใช้โมเดลเดิมของ e-Logistics ล่าสุดแพลตฟอร์มเดียวกันนี้ได้รับการปรับปรุงเพื่อให้บริการ B2B และB2G สำหรับธุรกรรม e-Payment (ยังคงเป็นตลาด blue ocean) ซึ่งจะเห็นได้ว่าแพลตฟอร์มของบริษัทนั้นสามารถพัฒนาเพื่อให้บริการสำหรับธุรกิจดิจิตัลอื่นๆได้ในอีกหลายอุตสาหกรรม

ผู้บริหารคาดว่ากรมสรรพากรจะประกาศผู้ให้บริการสำหรับ e-tax invoice ภายในเดือนนี้ เราคาดว่าหนึ่งในรายชื่อนั้นต้องเป็น NETBAY แน่นอนเนื่องจากมีความรู้และประสบการณ์ที่เกี่ยวข้อง เมื่อแพลตฟอร์มของบริษัทถูกใช้สำหรับ e-tax invoice ในอนาคตสามารถขยายไปยังการให้บริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบ B2B ในระบบ digital ecosystem นี้เช่น e-Invoicing และ e-Purchasing

ต้องมองภาพในมุมกว้างเพื่อที่จะเข้าใจธุรกิจ

นักลงทุนจำนวนมากมองว่าการให้บริการของ NETBAY เป็นเพียงแพลตฟอร์มการให้บริการสำหรับกรมศุลกากร แต่ในความเป็นจริงมันเป็นยิ่งกว่านั้น กรมศุลกากร (B2G) เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการดำเนินงานโดยใน Ecosystem ของการให้บริการนี้มีผู้เล่นหลายราย หลากหลายการให้บริการที่อยู่ในระบบ และเมื่อบริษัท A ใช้เกตเวย์ของ NETBAY, บริษัท B (ลูกค้า หรือซัพพลายเออร์ของบริษัท A) ก็มีแนวโน้ม ที่จะใช้ระบบเดียวกัน (ซึ่งมีต้นทุนเพียง 5-10 บาทต่อการทำธุรกรรม) เนื่องจากให้ความสะดวกสบายมากขนึ้ และง่ายกว่าการใช้แพลตฟอร์มอื่นๆหรือใช้เอกสารกระดาษแบบเดิม การเข้าสู่ยุคของดิจิตอล โดยเปลี่ยนจากรูปแบบกระดาษแบบดั้งเดิมได้สร้างโอกาสอย่างมากให้กับ NETBAY ในการขยายธุรกิจทั้งในส่วนของภาคเอกชนและภาครัฐบาล

หนทางในยุคดิจิตัลข้างหน้า

บริษัทกำลังพัฒนา 1) แพลตฟอร์มการวิเคราห์ big-data สำหรับอุตสาหกรรมธนาคารเพื่อควบคุม NPLs, 2) การเป็นพันธมิตร ทำระบบ hybrid block chain ร่วมกับบริษัทจากประเทศญี่ปุ่น และธนาคารสำหรับธุรกรรมการเงินสำหรับผู้ส่งออก/นาเข้า  3) การวิเคราะห์ AI สำหรับการเช่าซื้อและบัตรเครดิต 4) การร่วมเป็นพันธมิตรกับ IBM เพื่อพัฒนาระบบสแกนสินค้าที่เข้า/ออกจากประเทศสำหรับกรมศุลกากร และ 5) Internet-of-Things apps เพื่อควบคุมเซ็นเซอร์สำหรับระบบอัตโนมัติสำหรับการทำชลประทาน, การใช้ปุ๋ยและอุณหภูมิ เมื่อปีที่แล้วบริษัทใช้งบประมาณ 30 ล้านบาทในการทำระบบ Cloud computing ซึ่งช่วยให้กำลังการผลิตขยายถึง 5 เท่า (ค่าเสื่อมราคา 500,000 บาท/เดือน) ทั้งนี้ Cloud computing มาพร้อมด้วย AI power และความสามารถของการดำเนินงานจะช่วยให้บริษัทสามารถพัฒนาแนวความคิดไปสู่ธุรกิจที่สามารถทำกำไรและขยายขนาดธุรกิจได้