สหรัฐเตรียมขายอาวุธให้ไทยหลังเลือกตั้ง

สหรัฐเตรียมขายอาวุธให้ไทยหลังเลือกตั้ง

อุปทูตสหรัฐเผย สหรัฐเตรียมกลับมาขายอาวุธให้ไทยอีกครั้งหลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้ง หลังการทำข้อตกลงซื้ออาวุธระหว่างกันถูกยกเลิกไปตั้งแต่ปี 2557

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานเมื่อวันอังคาร (5 มี.ค.) อ้างการเปิดเผยของนายปีเตอร์ เฮย์มอนด์ อุปทูตสหรัฐทำหน้าที่แทนเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทยว่า สหรัฐเตรียมที่จะขายอาวุธให้แก่ไทยอีกครั้งหลังจากได้ระงับการขายอาวุธยุทโธปกรณ์ประเภทต่างๆให้แก่รัฐบาลไทยมาตั้งแต่ไทยมีรัฐบาลจากการรัฐประหารเมื่อปี 2557

นายเฮย์มอนด์ ซึ่งทำหน้าที่รักษาการแทนเอกอัครราชทูต เนื่องจากยังไม่มีการแต่งตั้งเอกอัครราชทูตคนใหม่ บอกว่า สหรัฐกำลังเตรียมการที่จะฟื้นการขายอาวุธกับไทย เมื่อไทยมีรัฐบาลชุดใหม่ภายหลังการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.นี้

บลูมเบิร์กรายงานด้วยว่า ภายใต้กฎหมายของสหรัฐห้ามให้รัฐบาลอเมริกันขายอาวุธให้แก่รัฐบาลต่างชาติที่มาจากการรัฐประหาร ทำให้รัฐบาลไทย หันไปซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จากจีน ได้แก่ รถลำเลียงหุ้มเกราะ รถถัง และเรือดำน้ำ เมื่อไทยมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแล้ว สหรัฐจะมีโอกาสมากขึ้นในการแข่งขันกับจีนทั้งในส่วนของการขายอาวุธยุทโธปกรณ์ และในด้านการกระชับความร่วมมือด้านการทหารกับไทย

นายเฮย์มอนด์ กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2557 รัฐบาลสหรัฐขายอาวุธยุทโธปกรณ์ให้แก่ไทยคิดเป็นมูลค่า 437 ล้านดอลลาร์(ประมาณ 13,900 ล้านบาท) ซึ่งสหรัฐคาดหวังว่าจะเพิ่มการฝึกทหารและการขายอาวุธแก่ไทยมากขึ้น เนื่องจากไทยมีบทบาทอย่างมากในแผนยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกของสหรัฐ

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานด้วยว่า สหรัฐ ถือว่าไทยเป็นชาติพันธมิตรสำคัญนอกกลุ่มองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ทั้งยังเป็นพันธมิตรที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือสหรัฐในช่วงสงครามเวียดนาม และเป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับสหรัฐมายาวนานกว่า 200 ปี เพราะฉะนั้น การสูญเสียพันธมิตรอย่างไทย ให้กับจีน ถือเป็นความสูญเสียที่สหรัฐไม่อาจยอมให้เกิดขึ้นได้