บิ๊กวิริยะฯ ทบทวนค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถหวั่นกระทบขึ้นเบี้ย

บิ๊กวิริยะฯ ทบทวนค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถหวั่นกระทบขึ้นเบี้ย

วิริยะประกันภัย รุดทบทวนผลกระทบจ่ายค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถในไตรมาสแรกปีนี้ หวั่นดันอัตราความสูญเสียเพิ่ม คาดกระทบปรับขึ้นเบี้ยรถทุกประเภท 3-4% จากสมาคมประกันวินาศภัยประเมินทั้งระบบขึ้นเบี้ย 5% ขณะที่ปีนี้ลุยออกประกันรถใหม่แหวกแนวสร้างความแตกต่าง

นายสยม โรหิตเสถียร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทกำลังรอติดตสถาการณ์ กรณีการจ่ายค่าขาดผลประโยชน์จากการใช้รถตามหลักเกณฑ์ใหม่ ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญว่าจะมีผลกระทบต่ออัตราความเสียหายของประกันภัยรถยนต์เพิ่มขึ้นหรือไม่ ทางสมาคมประกันวินาศภัยไทย ได้ประเมินจากผลกระทบดังกล่าวจะมีผลต่ออัตราความเสียหายของประกันภัยรถยนต์ทั้งระบบเพิ่มขึ้น เบื้องต้นทำให้มีผลต่อเบี้ยประกันต้องปรับเพิ่มขึ้นประมาณ5% 

“ขณะที่การแข่งขันในตลาดประกันรถยนต์ปีนี้จะเห็นว่าการแข่งลดเบี้ยไม่มีแล้ว เพราะที่ผ่านมาตัวอย่างให้เห็นชัดเจนแล้วว่าแข่งขันไปบริษัทประกันก็จะประสบปัญหาขาดทุน และเมื่อมีการจ่ายค่าขาดประโยชน์ในปีนี้ยิ่งทำให้มีแนวโน้มขึ้นเบี้ยมากกว่า” 

ทั้งนี้ บริษัทจะมีการประเมินผลกระทบดังกล่าวในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ก่อน ซึ่งอาจจะมีโอกาสปรับขึ้นเบี้ยหรือไม่ปรับขึ้นก็ได้ แต่หากมีผลกระทบเกิดขึ้นจนจะต้องปรับขึ้นเบี้ยจริงๆ บริษัทก็ได้ประเมินผลกระทบไว้อาจจะขอปรับขึ้นเบี้ยประกันรถยนต์ทุกประเภทประมาณ3-4%ขณะที่ปัจจุบันอัตราความเสียหายของประกันภัยรถยนต์ของบริษัทอยู่ที่60% ในปีนี้จะคุมไว้ที่ระดับนี้

“เดิมเราก็จ่ายค่าขาดผลประโยชน์อยู่แล้ว โดยเป็นการจ่ายตามฐานานุรูปและไม่ได้จ่ายทุกราย แต่หลักเกณฑ์ใหม่ชัดเจนว่าต้องจ่ายทุกราย วันละไม่เกิน500-1,000บาท ตอนนี้บริษัทต้องรอประเมินผลกระทบในไตรมาสแรกนี้ก่อน” 

สำหรับนโยบายรับประกันภัยรถยนต์ของบริษัทในปีนี้นายสยม กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกันมุ่งเน้นการพัฒนากรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ที่สร้างความแตกต่างจากในตลาด ล่าสุด เตรียมออกกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์รูปแบบใหม่ ประกันภัยชั้น 3 คุ้มครองเฉพาะเป็นฝ่ายถูกเท่านั้น ซึ่ ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างยื่นขออนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) 

“ประกันรถรูปแบบใหม่มีข้อดี เบี้ยถูก ลดกรณีให้รถที่มีประกันเมื่อเกิดเหตุแล้วยอมรับผิดแทน ทำให้รถมีประกันยอมรับแทนจะยากขึ้น ถ้าเป็นฝ่ายผิด ประกันจะซ่อมรถให้คู่กรณดีท่านั้นไม่ซ่อมให้เรา แต่ถ้าเป็นฝ่ายถูกประกันจะซ่อมทั้งรถคู่กรณีและรถเราด้วย”

นอกจากนี้ บริษัทมุ่งการพัฒนาคุณภาพด้านการบริการ โดยเฉพาะคุณภาพการบริการสินไหมรถยนต์ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งและจุดขายของบริษัทที่มีลูกค้าจำนวนกว่า 5 ล้านกรมธรรม์ และมีจำนวนถึง 900,000 เคลมเมื่อปีที่ผ่านมา พร้อมกับจะนำนวัตกรรมทางเทคโนโลยีมาเสริมศักยภาพแล้ว จะมุ่งพัฒนาทรัพยากรบุคคลอีกด้วย