เปิดโพลล์รัฐ 'พปชร.' จ่อ 100 ที่นั่ง!

เปิดโพลล์รัฐ 'พปชร.' จ่อ 100 ที่นั่ง!

อีกไม่ถึง 20 วันก็จะถึงวันหย่อนบัตรเลือกตั้งหลายองค์กรก็ได้จัดทำโพลล์สำรวจคะแนนนิยมทั้งในส่วนของตัวว่าที่นายกฯ และพรรคการเมือง

ว่าแต่ละพรรคมีโอกาสได้ ส.ส.กี่คน กี่ที่นั่ง จากการเลือกตั้งระบบแบ่งเขต 350 เขต จำนวน ส.ส.350 คน

ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การเลือกตั้งหนนี้เป็นการเลือกตั้งระบบ “บัตรเดียว” เลือกผู้สมัครแบบแบ่งเขตไปคำนวณจำนวนส.ส.“ปาร์ตี้ลิสต์” ฉะนั้นโพลล์ที่ทำออกมาจึงเป็นโพลล์คาดการณ์ผลการเลือกตั้งในระบบแบ่งเขตเท่านั้น ส่วนที่นั่งปาร์ตี้ลิสต์ต้องรอลุ้นวันเลือกตั้งจริง

สำหรับโพลล์ที่นำมาเปิดในวันนี้ เป็นโพลล์ที่จัดทำโดย หน่วยงานรัฐหน่วยหนึ่ง ซึ่งมีเครือข่ายเจ้าหน้าที่กระจายอยู่ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และความน่าสนใจ เพราะมีความแม่นยำสูงระดับหนึ่ง ถ้าบอกชื่อไปทุกคนต้องร้องอ๋อ แต่สิ่งที่แตกต่างจากผลโพลล์ที่สื่อมวลชนหลายสำนักจัดทำ ก็คือคาดการณ์จำนวน ส.ส.ที่พรรคพลังประชารัฐจะได้รับ พุ่งสูงใกล้เคียงกับพรรคประชาธิปัตย์ในระดับเกือบร้อยที่นั่ง เรียกว่าหายใจรดต้นคอกันเลยทีเดียว

รายละเอียดของโพลล์ จากเขตเลือกตั้งทั่วประเทศ 350 เขต คาดว่าพรรคเพื่อไทยยังคงได้ ส.ส.สูงสุด คือ 122 คน (ข้อมูลนี้ต่างจากโพลล์สื่อสำนักต่างๆ ที่คาดการณ์ว่าเพื่อไทยชนะ 130 เขตขึ้นไป) ส่วนอันดับ 2 คือ พรรคประชาธิปัตย์ 83 คน พรรคพลังประชารัฐ 82 คน (ห่างกัน 1 ที่นั่งเท่านั้น) พรรคภูมิใจไทย 35 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 8 คน พรรคชาติพัฒนา กับพรรคประชาชาติ พรรคละ 3 คน

ขณะที่พรรครวมพลังประชาชาติไทยของ “ลุงกำนัน” สุเทพ เทือกสุบรรณ, พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ที่มี ดำรงค์ พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เป็นหัวหน้าพรรค และพรรคพลังท้องถิ่นไท ของ “ชัช เตาปูน” ชัชวาลย์ คงอุดม ได้ ส.ส.พรรคละ 1 คน ส่วนที่เหลือคาดว่าไม่ได้ รวมทั้งพรรคอนาคตใหม่ด้วย

เมื่อเจาะมาที่พื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งมีที่นั่ง ส.ส.ให้แย่งกัน 30 ที่นั่ง ผลประเมินของโพลล์หน่วยงานรัฐปรากฏว่า พรรคประชาธิปัตย์แชมป์เก่ายังคงรักษาแชมป์เอาไว้ได้ คือได้ ส.ส.19 คน พรรคเพื่อไทย 8 คน แต่โพลล์ล่าสุดพบว่า พรรคที่คาดว่าจะปักธง กทม. ได้สำเร็จในการเลือกตั้งหนนี้คือพลังประชารัฐ 2 คน และพลังท้องถิ่นไท 1 คน จากเขตบางซื่อ ฐานเสียงสำคัญของ “ชัช เตาปูน” นั่นเอง

พื้นที่ที่มีความผันแปรสูงอีกภาคหนึ่ง คือภาคใต้ มี ส.ส.ทั้งหมด 50 คน พรรคประชาธิปัตย์หายไปราว 10 ที่นั่ง เหลือเพียง 38 คน พลังประชารัฐปักธงได้ 4 คน เช่นเดียวกับพรรคภูมิใจไทย นอกจากนั้นยังมีพรรคประชาชาติ 3 คน และรวมพลังประชาชาติไทยอีก 1 คน

ประเด็นที่น่าสังเกตจากโพลล์นี้ก็คือ พรรคเพื่อไทยสูญเสียที่นั่ง ส.ส. ในภาคอีสานให้กับพรรคพลังประชารัฐถึง 26 ที่นั่ง ขณะที่ภาคตะวันตกและภาคใต้ พรรคเพื่อไทยไม่ได้ ส.ส. เลย เช่นเดียวกับพรรคเครือข่ายของพรรคเพื่อไทย คือ “พรรคตระกูลเพื่อ” ทั้งหลาย ทั้งเพื่อชาติ เพื่อธรรม ไทยรักษาชาติ รวมไปถึงอนาคตใหม่ แต่พรรคเหล่านี้อาจได้ ส.ส.ในระบบปาร์ตี้ลิสต์ ซึ่งมีที่นั่ง ส.ส. ให้แย่งกันอีก 150 ที่นั่ง

สำหรับโพลล์จากสื่อมวลชนสำนักต่างๆ รวมทั้ง “เนชั่นโพลล์” ที่จะเปิดต่อสาธารณะอย่างเป็นทางการ คาดการณ์จำนวน ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐใกล้เคียงกัน คือ ราวๆ 64 ที่นั่งเท่านั้นในส่วนของ ส.ส.เขต

จากการสอบถามหน่วยงานรัฐที่ทำโพลล์ ถึงเหตุที่พรรคพลังประชารัฐมีคะแนนนิยมสูงขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคดียุบพรรคไทยรักษาชาติ ทำให้ประชาชนมองเห็นและเปรียบเทียบกับท่าทีของ “นายกฯลุงตู่” ที่สังคมไม่ต้องตั้งข้อสงสัยเรื่องความจงรักภักดี ประกอบกับคะแนนนิยมเฉพาะตัวเมื่อ กกต.ไฟเขียวให้ร่วมดีเบตและขึ้นปราศรัยได้ ก็ทำให้ประชาชนหันมาให้ความสนใจ