หัวเว่ยคว้าสัญญาสร้างสมาร์ทซิตี้ในเยอรมนี

แม้จะถูกกดดันอย่างหนักจากรัฐบาลสหรัฐ และเหล่าชาติพันธมิตรที่พากันชะลอ หรือห้ามหัวเว่ย เทคโนโลยี มีส่วนร่วมในการวางเครือข่ายเทคโนโลยี5จีในประเทศเพราะไม่มั่นใจด้านความปลอดภัยของข้อมูล แต่บริษัทเทคโนโลยีจีน ยังคงเดินหน้าธุรกิจ5จีในตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดยุโรปที่ยังคงมีความเชื่อมั่นและไม่ได้กลัวว่าหัวเว่ยจะเข้ามาจารกรรมข้อมูลเหมือนสหรัฐ

ล่าสุด หัวเว่ย เทคโนโลยี บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน ลงนามบันทึกความเข้าใจ(เอ็มโอยู)ภายในงานมหกรรมเทคโนโลยีโลก หรือ โมบาย เวิลด์ คองเกรส เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน กับเมืองเก็ลเซินเคียร์เชิน ประเทศเยอรมนี เพื่อสร้างสมาร์ทซิตี้ โดยจะร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์มสมาร์ทซิตี้ เพื่อให้บริการติดต่อราชการแก่ประชาชน นักท่องเที่ยว และภาคธุรกิจในเมืองแห่งนี้ เริ่มจากการสร้างห้องปฏิบัติการนวัตกรรมแบบเปิดที่ทำหน้าที่เป็นจุดแสดงนวัตกรรมสมาร์ทซิตี้แก่ประชาชน ธุรกิจ และนักท่องเที่ยว

จุดแสดงนวัตกรรมสมาร์ทซิตี้สำหรับเมืองเก็ลเซินเคียร์เชินและพันธมิตรจุดทดสอบเทคโนโลยีและโซลูชันใหม่ ๆและจุดศูนย์กลางในการสร้างเครือข่ายพันธมิตรในพื้นที่และขยายแพลตฟอร์ม

โครงการดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อดำเนินการและทดสอบบริการสมาร์ทซิตี้สู่สาธารณะในรูปแบบที่ชัดเจน พร้อมพิสูจน์แนวทางแนะนำในการสร้างแพลตฟอร์มกลางที่เป็นมาตรฐานเพื่อให้บริการสมาร์ทซิตี้ อีกเป้าหมายหนึ่งคือการจัดตั้งเครือข่ายเมืองดิจิทัล ที่พันธมิตรทั้งหลายเข้ามาร่วมแบ่งปันความรู้ความเชี่ยวชาญของตนได้

หัวเว่ย ยังคงเป็นพันธมิตรทางเทคโนโลยีเชิงกลยุทธ์ให้กับเมืองเก็ลเซินเคียร์เชินต่อไป เพื่อส่งมอบโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารและประมวลผล ที่เปิดโอกาสให้เมืองเก็ลเซินเคียร์เชิน มีความโดดเด่นจนได้รับการขนานนามว่าเป็น “เมืองที่เชื่อมโยงถึงกัน”

เมืองเก็ลเซินเคียร์เชิน มีประวัติศาสตร์ที่ทั้งยาวนานและโดดเด่นในสังคมเยอรมนี โดยเป็นเมืองที่ครั้งหนึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “เมืองพันไฟ” ซึ่งสะท้อนถึงไฟจากถ่านหินที่เป็นพลังขับเคลื่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรมของเยอรมนี ปัจจุบัน เมืองนี้กำลังก้าวเข้าสู่การเป็นระบบเศรษฐกิจแบบตลาด ที่มุ่งใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาดในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในเมืองเก็ลเซินเคียร์เชิน และพื้นที่โดยรอบ พร้อมกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจและระบบนิเวศที่ขับเคลื่อนด้วยสารสนเทศ