BDMS - ซื้อเก็งกำไร

BDMS - ซื้อเก็งกำไร

ค่าใช้จ่ายทางภาษีเพียงครั้งเดียวในไตรมาส 4/61 จะนำไปสู่กำไรที่ยิ่งใหญ่ในไตรมาส 1/62

กำไรหลักเป็นไปตามคาด แต่กำไรสุทธิน่าผิดหวัง

BDMS รายงานกำไรสุทธิที่ 1.4 พันล้านบาทสำหรับไตรมาส 4/61 ลดลง 34% YoY และ 53% QoQ เนื่องจากเหตุการณ์ขายเงินลงทุนใน RAM ที่มีกำไรอย่างงมีนัยสำคัญ (ขายในไตรมาส 1/62) ทำให้บริษัทต้องบันทึกค่าใช้จ่ายทางภาษีเพียงครั้งเดียว 727 ล้านบาทในไตรมาส 4/61 หากไม่รวมค่าใช้จ่ายทางภาษีเพียงครั้งเดียวนี้ กำไรหลักจะอยู่ที่ 2.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% YoY แต่ลดลง 28% QoQ สอดคล้องกับการประมาณการของเราและตลาด นอกจากนี้บริษัทประกาศเงินปันผลต่อหุ้นที่ 0.19 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเบื้องต้นที่ 0.8% ขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 14 มี.ค. และจ่ายในวันที่ 26 เม.ย.

ประเด็นหลักผลประกอบการ

รายได้การแพทย์อยู่ที่ 1.89 หมื่นล้านบาท (70% คือผู้ป่วยไทยและ 30% คือผู้ป่วยชาวต่างชาติ) สูงขึ้น 6% YoY แต่หดตัว 4% QoQ เนื่องจากช่วงโลว์ซีซัน รายได้ผู้ป่วยชาวไทยเพิ่มขึ้น 6% YoY และรายได้ผู้ป่วยชาวต่างชาติโต 8% YoY รายได้การแพทย์ในภูมิภาคต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น 6% ในขณะที่รายได้การแพทย์ในกทม.โตขึ้น 5% อัตรากำไรขั้นต้นของกลุ่มการแพทย์อยู่ที่ 29.8% ลดลง 15bps YoYและ 257bps QoQ สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้อยู่ในระดับสูงที่ 24.2%ในไตรมาส 4/61 โตขึ้นจาก 20.5% ในไตรมาส 4/60 และ 19.9% ในไตรมาส 3/61

เนื่องจากการเปิดตัวคลินิก BDMS Wellness อัตรากำไรหลักอยู่ที่ 11.0% ในไตรมาส 4/61 ลดลงจาก 11.4% ในไตรมาส 4/60 และ14.7% ในไตรมาส 3/61 สัดส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนสุทธิทรงตัว QoQ ที่ 0.5 เท่า ณ สิ้นเดือน มิ.ย.

แนวโน้ม

BDMS รายงานกำไรสุทธิทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 1/62 หนุนโดยกำไรสุทธิหลังหักภาษีจากการขาย RAM (BDMS ถือหุ้น 38.24%) เราประมาณการเชิงอนุรักษ์นิยมว่ากำไรหลักในไตรมาส 1/62 จะหดตัว YoY เนื่องจากฐานที่สูงจากกำไรหลักทำสถิติสูงสุดที่ 2.9 พันล้านบาท ในไตรมาส 1/61 แม้ว่ากำไรหลักในไตรมาส 1/62 จะเติบโตแบบก้าวกระโดด QoQ หนุนโดยปัจจัยทางฤดูกาล รายได้การแพทย์คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น YoY และ QoQ อัตรากำไรหลักจะลดลง YoY แต่จะขยายตัว QoQ เราประมาณการว่า BDMS อาจจะบันทึกค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงานที่เกี่ยวข้องกับกฏเกณฑ์ใหม่เท่ากับ 592 ล้านบาทในไตรมาส 1/62

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

เราได้ปรับเพิ่มการประมาณการกำไรสุทธิปี 2562 ขึ้น 61% ทำสถิติสูงสุดที่ 1.7 หมื่นล้านบาท เพื่อสะท้อนกำไรจากการขาย RAM และค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงานเพียงครั้งเดียว สัดส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนสุทธิคาดว่าลดลงจาก 0.5 เท่า ณ สิ้น ปี 2561 มาอยู่ที่ 0.3 เท่า ณ สิ้นปี 2562 จากการชำระหนี้ (กระแสเงินสด 1.28 หมื่นล้านบาทจากการขายเงินลงทุนใน RAM) การประหยัดดอกเบี้ยจ่ายจะบรรเทาการขาดทุนของส่วนแบ่งกำไรของ RAM เรายังคงคาดการณ์กำไรหลักเติบโต 11% ในปี 2562 ไม่เปลี่ยนแปลง (รายได้การแพทย์เติบโต 9%) การประมาณการของเราได้สะท้อน dilution จากหุ้นกู้แปลงสภาพของ BDMS แล้ว

คำแนะนำ

หากราคาหุ้นปรับตัวลดลงจากความผิดหวังของกำไรสุทธิในไตรมาส 4/61 เราแนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อ ผลประกอบการที่แย่ในไตรมาส 4/61 ได้ผ่านพ้นไปแล้ว เนื่องจากเรากำลังมุ่งหน้าเข้าสู่กำไรสุทธิทำสถิติสูงสุดในไตรมาส 1/62 BDMS ซื้อขายที่ PER สุทธิ ปี 2562 ที่ 20.9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในปี 2549-61 ที่ 26.6 เท่า PER หลักอยู่ในระดับต่ำที่ 33.6 เท่า ต่ำกว่า PER ในช่วงขาขึ้นที่ 41.0 เท่า เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ด้วยราคาเป้าหมายประเมินด้วยวิธี DCF ที่ 27 บาท (WACC 6.6% และ terminal growth rate 2)