นานาชาติยินดี“ทรัมป์-คิม”ซัมมิตรอบ2

โฆษกของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิดเผยว่ายูเอ็น แสดงความยินดีต่อการประชุมสุดยอดที่จะเกิดขึ้นระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ด้านจีน คาดหวังซัมมิตครั้งนี้ประสบความสำเร็จด้วยดี ขณะรัสเซีย มองว่าการประชุมสุดยอดครั้งที่2 จะช่วยบรรเทาความตึงเครียดในภูมิภาค

นายสเตฟาน ดูจาร์ริค โฆษกของเลขาธิการยูเอ็น กล่าวแถลงต่อสื่อมวลชนว่า เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเจรจาระหว่างผู้นำสหรัฐและเกาหลีเหนือ

เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็น แถลงว่า ถึงเวลาสมควรแล้วที่จะสร้างความเชื่อมั่นว่าการเจรจาระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือจะเริ่มต้นอีกครั้งและมีรายละเอียดที่ระบุอย่างชัดเจนสำหรับแผนการปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี

อย่างไรก็ตาม นายดูจาร์ริคกล่าวว่า ตนไม่ต้องการคาดหวังหรือคาดการณ์ผลลัพธ์ของการประชุมสุดยอดครั้งนี้ แต่จะตอบสนองต่อผลลัพธ์ที่ออกมา

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์และนายคิมมีกำหนดจะพบกันที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม สำหรับการประชุมสุดยอดครั้งที่สอง โดยคาดว่าทั้งสองจะพบกันครั้งแรกในคืนวันพุธและร่วมรับประทานอาหารเย็นด้วยกัน จากนั้นจะมีการอภิปรายในวันพฤหัสบดีพร้อมตัวแทนของแต่ละฝ่าย

ขณะที่สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ประเด็นที่สำคัญครั้งนี้ได้แก่ แผนการปลดอาวุธนิวเคลียร์ การผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรของเกาหลีเหนือ และการประกาศภาวะยุติสงครามบนคาบสมุทรเกาหลี

 ด้านนายลู่ กัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า จีนคาดหวังว่าการประชุมสุดยอด ครั้งที่ 2 ระหว่างนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ จะประสบความสำเร็จด้วยดี

 “นานาประเทศทั่วโลก รวมถึงจีนต่างคาดหวังว่า เกาหลีเหนือและสหรัฐจะสามารถผลักดันให้การปลดอาวุธนิวเคลียร์มีความคืบหน้ามากกว่านี้ รวมถึงสันติภาพและความมั่นคงในคาบสมุทรเกาหลีบนพื้นฐานของข้อตกลงร่วมกัน และพวกเราได้เห็นรายงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรัฐบาลและประชาชนชาวเวียดนามได้เตรียมพร้อมเป็นอย่างดีและหวังว่าการประชุมสุดยอดดังกล่าวจะสามารถดำเนินไปตามรูปแบบที่ได้มีการเตรียมการไว้” นายลู่ กล่าว

ส่วนรัฐบาลรัสเซีย ขานรับการจัดการประชุมสุดยอดครั้งนี้ และมองว่าการประชุมสุดยอดครั้งนี้จะช่วยบรรเทาความตึงเครียดในภูมิภาค และคลายความวิตกเรื่องอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี

นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียเปิดเผยว่า “การทำให้คาบสมุทรเกาหลีมีความปลอดภัยและคาดเดาสถานการณ์ได้นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ และยังสอดคล้องกับเป้าหมายของการหยุดพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์  ซึ่งรัสเซียเชื่อว่า ความคืบหน้าใด ๆ ที่เกาหลีเหนือทำเพื่อตอบสนองความต้องการประชาคมนานาชาติควรได้รับการตอบแทนกลับคืน