โพลล์ชี้ 'อนุทิน' เพิ่มสูงสุด แคนดิเดทนายกฯ

โพลล์ชี้ 'อนุทิน' เพิ่มสูงสุด แคนดิเดทนายกฯ

ซุปเปอร์โพลล์ เผยแคนดิเดทนายกฯ กระแส "อนุทิน" มาแรงเพิ่มขึ้นมากสุด ตามมาด้วย "ประยุทธ์" ขณะที่ "ธนาธร" เพิ่มขึ้นน้อยสุด

สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) นำเสนอผลโพล เรื่อง เกาะกระแสแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี พบว่า กระแสแคนดิเดท นายกรัฐมนตรีที่พบสัดส่วนของประชาชนที่ระบุกลุ่มคนที่เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรีมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอันดับที่ 1 ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล (ภูมิใจไทย) เพิ่มขึ้นจากครั้งแรก 31.9% ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ มาอยู่ที่ 53.5% ในการสำรวจครั้งล่าสุดคือเพิ่มขึ้น 21.6%

รองลงมาคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (พลังประชารัฐ) เพิ่มขึ้น 21.4% คือจาก 37.5% ในการสำรวจช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ มาอยู่ที่ 58.9% ในการสำรวจครั้งล่าสุด

1_140

ต่อมาคือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (ประชาธิปัตย์) เพิ่มขึ้น 20.6% จาก 35.5% มาอยู่ที่ 56.1% นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ (เพื่อไทย) เพิ่มขึ้น 20.2% จาก 39.3% มาอยู่ที่ 59.5% ในขณะที่ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (เสรีรวมไทย) เพิ่มขึ้น 12.3% จาก 44.7% มาอยู่ที่ 57.0%

ที่น่าสังเกต คือการเปลี่ยนแปลงของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (อนาคตใหม่) เพิ่มขึ้นน้อยที่สุดคือ 10.2% จาก 44.8% ในต้นเดือนกุมภาพันธ์ มาอยู่ที่ 55.0% ในการสำรวจครั้งล่าสุด ตามลำดับ

นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการ สำนักวิจัยซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลวิเคราะห์เกาะติดกระแสแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ชี้ให้เห็นการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดดของแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีบางคนและการเปลี่ยนแปลงที่เริ่มแผ่วช่วงจะเข้าสู่โค้งสุดท้ายของบางคนโดยพบว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกำลังมีแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สูงที่สุดโดยเกาะกลุ่มกันดังนี้คือแคนดิเดทจาก พรรคภูมิใจไทย พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ ตามด้วย พรรคเพื่อไทย เสรีรวมไทย และ อนาคตใหม่ตามลำดับ

นอกจากนี้ ประชาชนส่วนใหญ่หรือ 72.6% ติดตามข่าวสารช่วงเลือกตั้งบ่อย ๆ ในขณะที่ 24.1% ไม่บ่อย และ 3.3% ไม่ติดตามเลย และเมื่อเปรียบเทียบความบ่อยในการติดตามข่าวสารช่วงเลือกตั้ง พบว่า ประชาชนให้ความสนใจติดตามข่าวสารช่วงเลือกตั้งเพิ่มสูงขึ้นจาก 50.6% ติดตามบ่อย ๆ ในครั้งที่ 1 (ต้นเดือนกุมภาพันธ์) มาอยู่ที่ 72.6% ในการสำรวจครั้งล่าสุด

อนึ่ง SUPER POLL ทำการสำรวจความคิดเห็นกรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 6,183 ตัวอย่าง โดยดำเนินโครงการระหว่าง วันที่ 5 - 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา