'ทรีนิตี้-เคทีบี' แนะนำแตกต่างราคา 'ทีเอ็มบี-ธนชาต'

'ทรีนิตี้-เคทีบี' แนะนำแตกต่างราคา 'ทีเอ็มบี-ธนชาต'

โบรกมองต่างดีลรวมกิจการ "ทีเอ็มบี-ธนชาต" บล.ทรีนิตี้แนะนำ "ซื้อ" ทีเอ็มบี เหตุได้ประโยชน์มากกว่า ส่วน บล.เคทีบี แนะนำ "ถือ" ทั้งทีเอ็มบีและทุนธนชาต

บล.ทรีนิตี้ ประเมินว่า การที่ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB และ ธนาคารธนชาต หรือ TBANK เซ็นเอ็มโอยูในข้อตกลงควบรวมกิจการและจะมีการใช้ชื่อทางการค้าใหม่ TMB จะเพิ่มทุนเพื่อนำไปลงทุนใน TBANK โดยการออกหุ้น PP ให้แก่ผู้ถือหุ้น TBANK เดิม รวมถึงออกหุ้น RO และ/หรือ PP ให้แก่นักลงทุนรายใหม่หรือรายเดิม

เรามองว่าจะไม่เกิด Price Dilution และ Earning Dilution สำหรับผู้ถือหุ้น TMB ส่วนธนาคารใหม่ภายหลังการเพิ่มทุนจะแข็งแกร่งขึ้น และมีโอกาสเติบโตได้จากผลประโยชน์ทางภาษีต่างๆ และ Synergy ทั้งนี้เรายังคงแนะนำ "ซื้อ" TMB เนื่องจากมองว่าได้ประโยชน์ในดีลดังกล่าว

ด้านบล.เคทีบี มีมุมมองเป็นบวกต่อการรวมกิจการระหว่าง TMB และ TBANK ซึ่งจะเกิด synergy ทั้งในด้านการสินเชื่อที่จะมีความหลากหลายและครบวงจรมากยิ่งขึ้น ประกอบกับช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้หลายอย่าง รวมถึง สอดคล้องกับนโยบายของรัฐที่ต้องการสร้างความแข็งแกร่งให้กับสถาบันการเงินในประเทศ โดยธนาคารใหม่หลังรวมกิจการกันแล้วจะมีสินทรัพย์ราว 1.9 ล้านล้านบาท และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย

เรามองว่า สามารถเข้าซื้อเก็งกำไรในหุ้น TMB ได้ เพราะราคาอ้างอิงในการเพิ่มทุนอยู่ที่ 2.475 บาท (อ้างอิง BVS ของ TMB ในปี 2018 ที่ 2.25 และ P/BV ที่จะเพิ่มทุนที่ 1.1x) มากกว่าราคาตลาดที่อยู่ที่ 2.28 บาท แต่ในแง่ของราคาพื้นฐานที่ไม่รวมดีลนี้
เรายังแนะนำ "ถือ" ราคาเป้าหมายที่ 2.30 บาท ส่วน TCAP ยังคงแนะนำ "ถือ" ราคาเป้าหมายที่ 55 บาท