“ทรัมป์-คิม” พร้อมประชุมสุดยอดรอบที่2

“ทรัมป์-คิม” พร้อมประชุมสุดยอดรอบที่2

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ เดินทางถึงกรุงฮานอย ของเวียดนาม เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดเวียดนามซัมมิต ในวันที่ 27-28 ก.พ.นี้

ผู้นำสหรัฐเดินทางถึงสนามบินนอยไบ ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ เดินทางถึงกรุงฮานอยโดยรถไฟและขบวนรถยนต์ของผู้นำเกาหลีเหนือ ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงและประชาชนชาวเวียดนาม

ผู้นำสหรัฐและเกาหลีเหนือ จะพบปะกันเป็นเวลาสั้นๆในวันพุธ ตามเวลาท้องถิ่นของเวียดนาม จากนั้นจะร่วมรับประทานอาหารค่ำร่วมกันกับคณะผู้ติดตามของทั้ง 2 ประเทศ โดยมีนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ และนายมิค มัลวานีย์ รักษาการณ์หัวหน้าคณะทำงานของทำเนียบขาว ร่วมด้วย ก่อนที่จะมีการหารืออย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดี

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่าการประชุมสุดยอดระหว่างนายคิม-และนายทรัมป์ ที่กรุงฮานอย ของเวียดนามครั้งนี้  จะมีความคืบหน้าเกี่ยวกับการยุติโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือหรือไม่

คณะทำงานของรัฐบาลสหรัฐ เปิดเผยว่า การประชุมสุดยอดที่กรุงฮานอยซึ่งจะเริ่มอย่างเป็นทางการวันพฤหัสบดีนี้ จะประกอบด้วยการประชุมแบบหนึ่งต่อหนึ่งระหว่างปธน.ทรัมป์และนายคิม และจะมีการเจรจาเพิ่มเติมกับคณะผู้แทนของทั้งสองประเทศ หลังจากนั้น คาดว่าทั้งสองฝ่ายจะออกแถลงการณ์ร่วมกันหลังเสร็จสิ้นการประชุม

นายไคลีย์ เฟอร์ริเออร์ นักวิเคราะห์ของสถาบันเศรษฐกิจเกาหลี (เคอีไอ) ในกรุงวอชิงตัน กล่าวว่า สหรัฐจะหาทางกำหนดขั้นตอนที่เป็นรูปธรรมในการปลดอาวุธนิวเคลียร์ และคาดว่าสหรัฐเต็มใจที่จะประกาศยุติสงครามเกาหลี ขณะที่เกาหลีเหนือ จะขานรับอย่างแน่นอนต่อการประกาศยุติสงคราม ซึ่งเป็นขั้นตอนแรกในการบรรลุเป้าหมายการสร้างสันติภาพที่ยั่งยืนบนคาบสมุทรเกาหลี

ขณะที่นางเจนนา กิ๊บสัน ผู้อำนวยการด้านการสื่อสารของเคอีไอ ระบุว่า เมื่อพิจารณาจากข้อกังขาและการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากเกี่ยวกับการประชุมสุดยอดระหว่างปธน.ทรัมป์และนายคิมที่สิงคโปร์ คาดว่าปธน.ทรัมป์จะต้องหาทางขอการยินยอมหรือคำมั่นสัญญาที่เป็นรูปธรรมจากนายคิม เพื่อแสดงให้เห็นว่าแผนการจัดการของเขายังคงได้ผล

นางกิ๊บสันตั้งข้อสังเกตว่า ปธน.ทรัมป์เผชิญกับช่วงเวลายากลำบากจากการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐที่ยาวนานที่สุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงที่ผ่านมา

“การแสดงให้เห็นว่า เขาสามารถรับมือกับประชุมสุดยอดครั้งใหญ่ได้สำเร็จ และได้รับการยิมยอมที่สำคัญจากนายคิม จะถือเป็นข่าวดีสำหรับปธน.ทรัมป์” นางกิ๊บสัน กล่าว

ด้านสำนักข่าวซินหัว รายงานว่า นายคิมได้ระบุในการแสดงสุนทรพจน์ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาว่า เขาจะสร้างความสัมพันธ์ใหม่กับสหรัฐ สร้างสันติภาพที่ยั่งยืนในคาบสมุทรเกาหลี และดำเนินการปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าสหรัฐจะดำเนินมาตรการที่สอดคล้องกัน