“พาวเวล”ส่งสัญญาณชะลอขึ้นดอกเบี้ย

“พาวเวล”ส่งสัญญาณชะลอขึ้นดอกเบี้ย

ย้ำตัดสินใจนโยบายตามข้อมูลเศรษฐกิจ

นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวย้ำเมื่อวันอังคาร(26ก.พ.)ว่า เฟดจะใช้ความอดทนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการตัดสินใจด้านนโยบายอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจที่เฟดได้รับ พร้อมทั้งกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐ มีความแข็งแกร่ง แต่ยังคงมีความเสี่ยง ซึ่งเฟดกำลังจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะปรับนโยบาย หากมีความจำเป็น

“ขณะที่เรามองดูสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันว่ามีความแข็งแกร่ง และมีแนวโน้มที่สดใส แต่ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เราได้เห็นปัญหา และสัญญาณที่ขัดแย้งกัน ขณะที่ตลาดการเงินมีความผันผวนจนถึงช่วงปลายปีที่แล้ว และสภาวะทางการเงินไม่ได้ช่วยสนับสนุนมากนักต่อการขยายตัวเมื่อเทียบกับช่วงต้นปีที่แล้ว” นายพาวเวล กล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภา

ส่วนในวันนี้ นายพาวเวลจะกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งนักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวล เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อ รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้

นายพาวเวล ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในปีที่แล้ว โดยมีการเติบโตใกล้ระดับ 3% และจะชะลอตัวลงเล็กน้อยในปีนี้ ขณะที่การจ้างงานและเงินเฟ้ออยู่ใกล้ระดับเป้าหมายของเฟด แม้ว่าการปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) เป็นเวลา 35 วันจะสร้างความยากลำบากต่อเจ้าหน้าที่รัฐบาล และชาวสหรัฐจำนวนมาก แต่ก็ได้ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจไม่มากนัก และจะได้รับการชดเชยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า

นายพาวเวล ระบุด้วยว่า เฟดจะจับตาเศรษฐกิจจีนและยุโรป รวมทั้งการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (เบร็กซิท) และการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า  เฟดพร้อมที่จะปรับรายละเอียดของการปรับลดงบดุล โดยจะขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจและการเงิน ส่วนในระยะยาว ขนาดงบดุลของเฟดจะถูกกำหนดจากอุปสงค์สำหรับการก่อหนี้ของเฟด ซึ่งได้แก่ สกุลเงิน และทุนสำรองธนาคาร

การแสดงความเห็นของนายพาวเวลในวันนี้ เกี่ยวกับการปรับลดงบดุล ถือว่าแตกต่างจากในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งเขาระบุว่า เฟดจะเดินหน้าปรับลดงบดุลโดยอัตโนมัติ ซึ่งสร้างความตื่นตระหนกต่อนักลงทุน เนื่องจากกังวลว่าการปรับลดงบดุลของเฟดจะเป็นปัจจัยกดดันตลาด

ทั้งนี้ เฟด เริ่มการปรับลดงบดุลในเดือนต.ค.2560 โดยขณะนั้นงบดุลของเฟดมีมูลค่าสูงกว่า 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ และขณะนี้อยู่ที่ระดับ 4 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งในการปรับลดงบดุลนั้น เฟดจะปล่อยให้พันธบัตรจำนวนหนึ่งครบอายุโดยไม่มีการนำรายได้ไปลงทุนในพันธบัตรใหม่ ซึ่งวงเงินการปรับลดงบดุลสูงสุดคือ 5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน