ฮานอยสนั่น! ‘ทรัมป์-คิม’ พร้อมเจรจา

ฮานอยสนั่น! ‘ทรัมป์-คิม’ พร้อมเจรจา

การประชุม “ทรัมป์-คิม ซัมมิต” รอบ 2 ที่ทั่วโลกจับตามอง ณ กรุงฮานอยของเวียดนาม กำลังจะเปิดฉากขึ้นในวันพรุ่งนี้ (27 ก.พ.) หลายฝ่ายลุ้นว่า ผู้นำทั้งสองจะเจรจากันได้คืบหน้าหรือไม่

หลังจากเดินทางมาราธอนด้วยรถไฟจากกรุงเปียงยางตั้งแต่วันเสาร์ มาลงที่เมืองชายแดนตงต้างทางภาคเหนือห่างจากเมืองหลวง 170 กิโลเมตรขบวนรถของคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือมาถึงกรุงฮานอยเมื่อก่อนเที่ยง ชาวเวียดนามฝ่าฝนมาคอยต้อนรับกลางกรุงอย่างล้นหลาม แม้แต่ชาวต่างชาติที่เดินผ่านไปมาก็พากันตื่นเต้นที่ได้เห็นผู้นำรายนี้ ขณะที่ทางการสั่งปิดถนนไล ถ่วง เกียต หน้าโรงแรมมีเลียที่พักของนายคิม

เข้าพักผ่อนได้ไม่กี่ชั่วโมง คิมก็ออกไปสถานทูตเกาหลีเหนือในกรุงฮานอย เหมือนกับตอนซัมมิตที่สิงคโปร์ที่เขาออกชมเมืองโดยไม่มีกำหนดการ

การมาเวียดนามนอกจากเพื่อประชุมกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แล้ว คิมยังถือโอกาสเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของประธานาธิบดีเหวียน ฝู จ่องด้วย

เหล่าผู้สังเกตการณ์มองว่า นี่คือการมาดูงานของคิมเพื่อศึกษาตัวแบบเศรษฐกิจที่ประสบความสำเร็จสำหรับประเทศสังคมนิยม งานนี้คิมไม่ได้มาคนเดียว สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า เขาควงน้องสาว “คิม โย จอง” ผู้ดำรงตำแหน่งสมาชิกหมุนเวียนกรมการเมือง รองผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาชวนเชื่อและปลุกระดม คณะกรรมการกลางพรรคแรงงาน และคิม ยอง ชอล รองประธานคณะกรรมการกลางพรรคแรงงานมาด้วย

ด้านประธานาธิบดีทรัมป์เดินทางด้วยเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันมาถึงช่วงกลางคืน คิมนั้นไม่ได้พูดอะไรก่อนถึงวันประชุม แต่ทรัมป์ทวีตข้อความว่าเขารอคอยการประชุมครั้งที่ 2 ที่สร้างสรรค์ยิ่ง

ตอนเจอกันที่สิงคโปร์ในเดือน มิ.ย.2561 ทรัมป์ใช้มาตรการคว่ำบาตรกดดันให้รัฐบาลเปียงยางยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ แต่คราวนี้เป็นได้ว่าสหรัฐจะเสนอแรงจูงใจทางเศรษฐกิจ อย่างที่ทวีตไปว่า “ถ้าปลดอาวุธนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ เกาหลีเหนือจะกลายเป็นมหาอำนาจเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าไม่ทำก็เป็นแบบเดิมๆ ท่านประธานคิมคงจะตัดสินใจอย่างฉลาด”

เห็นได้ชัดว่ารัฐบาลวอชิงตันต้องการให้ซัมมิตรอบนี้ได้ผลมากกว่ารอบแรก

คริสโตเฟอร์ กรีน ที่ปรึกษาอาวุโสจากอินเตอร์เนชันแนลไครสิสกรุ๊ป ซึ่งมีฐานปฏิบัติการในกรุงบรัสเซลส์ เผยเมื่อวันจันทร์ (25 ก.พ.) ว่าความสำเร็จของซัมมิตอาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับทรัมป์แต่เพียงฝ่ายเดียว แต่อยู่ที่ผลของการเตรียมการก่อนหน้านี้ด้วย

เดือนก่อนสตีเวน บีกัน ผู้แทนพิเศษสหรัฐประจำเกาหลีเหนือ เข้าหารือกับรัฐบาลเปียงยาง และมาฮานอยเมื่อสัปดาห์ก่อน เพื่อผลักดันให้ซัมมิตรอบนี้ได้ผลเป็นรูปธรรม

“สิ่งที่สำคัญคือ วอชิงตันค่อยๆ ผ่อนคลายข้อเรียกร้องที่ให้เกาหลีเหนือปลดนิวเคลียร์ก่อนที่สหรัฐจะอ่อนข้อให้ ตอนนี้สหรัฐเริ่มมีแผนที่เป็นจริงมากขึ้น บนพื้นฐานของการต่างตอบแทน เพิ่มโอกาสให้ซัมมิตเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ เปียงยางอาจเห็นชอบตกลงเดินหน้าปลดอาวุธแลกกับวอชิงตันผ่อนคลายคว่ำบาตรให้บ้าง” กรีนแสดงทัศนะ