หัวเว่ย ชี้ 5จี สร้างโอกาสภาคอุตสาหกรรมอาเซียน 1.2 ล้านล้านดอลล์

หัวเว่ย ชี้ 5จี สร้างโอกาสภาคอุตสาหกรรมอาเซียน 1.2 ล้านล้านดอลล์

หัวเว่ยมุ่งสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล เน้นทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อสร้างระบบนิเวศด้านดิจิทัล

นายเจมส์ อู๋ ประธานบริหาร ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของหัวเว่ย กล่าวว่า การมาของเทคโนโลยี 5จี จะสร้างโอกาสให้อุตสาหกรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สูงถึง 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ในอีก 5 ปีข้างหน้า 

"เอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีจีดีพีเติบโตเร็วที่สุดราว 5-6% ในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยจะมีเศรษฐกิจดิจิทัลเป็นตัวขับเคลื่อนหลักราว 20%"

สำหรับบทบาทของหัวเว่ยมุ่งสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศต่างๆ ในอาเซียนโดยจะทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อสร้างระบบนิเวศด้านดิจิทัลขึ้นมา

เขาคาดการณ์ว่า การใช้เทคโนโลยี 5จีเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ในหลายๆประเทศอาทิอินเดียไทยและเวียดนามจะเริ่มขึ้นได้เร็วในปี 2563  และในอีก 5 ปีข้างหน้าภูมิภาคนี้จะมีผู้ใช้ 5จีสูงถึง 80 ล้านรายทั้งอุปกรณ์ไร้สายดิจิทัลและอุปกรณ์อัจฉริยะต่างๆจะทำให้ผลิตภาพทางสังคมดีขึ้นเฉลี่ย 4-8%

ที่ผ่านมาหัวเว่ยใช้งบประมาณราว 160 ล้านบาทเพื่อจัดการทดสอบ 5จีในประเทศไทยและอุปกรณ์ 5จีต่างๆสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์

“ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นตลาดเกิดใหม่เป็นฟันเฟืองสำคัญที่เชื่อมโยงนวัตกรรมและธุรกิจเข้าด้วยกันเรากำลังพยายามอย่างดีที่สุดที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและวิสัยทัศน์ความเป็นอัจฉริยะผ่านนวัตกรรม”

ตลาดในภูมิภาคนี้อาทิประเทศไทยมีการเติบโตอย่างรวดเร็วจากการจัดอันดับดัชนีการพัฒนาด้านไอซีทีของไอทียูในช่วงหลายปีที่ผ่านมาซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเร่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัลและแน่นอนว่าโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีจะเป็นส่วนประกอบหลักของการเปลี่ยนผ่านนี้

ปี 2561 พัฒนาโซลูชันเสาสัญญาณ “Bangkok Platform” ขึ้นซึ่งออกแบบมาเป็นการเฉพาะสำหรับบริการแอลทีอีที่มีความหนาแน่นสูงความเร็วสูงและการเติบโตรวดเร็ว  และใช้ CloudAir ช่วยแก้ปัญหาต้นทุนสูงและการใช้คลื่นความถี่แอลทีอีที่มีอัตราต่ำซึ่งถือเป็นการดำเนินการที่ช่วยเพิ่มแบนด์วิธให้มากขึ้นได้ถึง 40% และช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานให้ดียิ่งขึ้น  ในประเทศอินเดียหัวเว่ยได้แนะนำให้ใช้คลื่นไมโครเวฟกับเทคโนโลยี 5จีซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสเปคตรัมการส่งข้อมูลแบบไร้สายให้เพิ่มขึ้นได้เท่าตัว

“ผมเชื่อว่าปี 2562 จะเป็นปีที่สำคัญยิ่งสำหรับ 5จีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หัวเว่ยในฐานะผู้จำหน่ายเทคโนโลยี 5จีจะช่วยให้โอเปอเรเตอร์ทุกรายในภูมิภาคทำแผนให้เป็นจริง  ทั้งบริษัทจะลงทุนอย่างต่อเนื่องในทั้งด้าน 5จี, บรอดแบนด์, คลาวด์, ปัญญาประดิษฐ์และสมาร์ทดีไวซ์เพื่อช่วยให้ลูกค้าได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่นี้ได้มากที่สุด”

ปี 2561 รายได้ของหัวเว่ยคาดว่าจะสูงถึง 1.085 แสนล้านเหรียญดอลลาร์หรือเติบโต 21% จากปีก่อนหน้า  สำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็เติบโตอย่างแข็งแกร่งเช่นกันโดยธุรกิจคอนซูเมอร์ของหัวเว่ยในปีที่ผ่านมาเติบโตขึ้นถึง42%

มุ่งสู่ดิจิทัล ไม่ใช่การเมือง

เขากล่าวว่าตั้งแต่ปีที่แล้วบริษัทยักษ์ใหญ์ด้านเทคโนโลยีต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายจากสหรัฐที่พยายามกระตุ้นประเทศพันธมิตรต่างๆให้กีดกันหัวเว่ยจากโครงการพัฒนา 5จีโดยอ้างว่าเทคโนโลยีของบริษัทนั้นอาจเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของประเทศและผู้ใช้  ซึ่งหัวเว่ยได้ปฏิเสธคำกล่าวอ้างที่ว่าเทคโนโลยีของบริษัทอาจจะใช้เพื่อการสอดแนมข้อมูลและจนขณะนี้ก็ยังไม่มีการแสดงหลักฐานใดๆเพื่อสนับสนุนข้อกล่าวหาดังกล่าว  

เมื่อถูกถามเกี่ยวกับข้อกล่าวหานายอู๋กล่าวว่สส่วนตัวแล้วไม่ได้กังวลกับเรื่องนี้ทุกประเทศไม่ควรจะใช้ 5จีมาเป็นประเด็นทางการเมืองบริษัทเองพิสูจน์ตัวเองด้วยสถิติความปลอดภัยทางไซเบอร์ 20 ปีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับทุกรัฐบาลและทุกคนว่าหัวเว่ยนั้นสามารถเชื่อใจได้มั่นใจว่าพวกเขามีคำตัดสินที่ชัดเจนในฐานะตลาดเกิดใหม่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้จำเป็นต้องร่วมมือกับผู้จำหน่ายเทคโนโลยีไอซีทีต่างๆที่สามารถมีส่วนร่วมในแต่ละประเทศได้เต็มที่จริงๆ

หัวเว่ยมีการลงทุนใน 5จีมานานกว่า 10 ปีแล้วและได้รับการยอมรับว่าเทคโนโลยีของหัวเว่ยนั้นก้าวล้ำนำหน้าในตลาด 12-18 เดือนผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมได้แย้งว่าการแบนหัวเว่ยออกจากการพัฒนา 5จี  อาจจะทำให้การพัฒนาโครงข่ายทั้งหมดล่าช้าออกไป

รายงานล่าสุดสหราชอาณาจักรได้สรุปว่าความเสี่ยงต่างๆจากอุปกรณ์ 5จีของหัวเว่ยสามารถควบคุมให้ลดน้อยลงได้โดยทางเลือกที่นำไปสู่การปฏิบัติที่ดีที่สุดและฉลาดที่สุดคือการสร้างสภาพแวดล้อมที่ผู้จำหน่ายทุกรายสามารถแข่งขันกันได้อย่างเป็นธรรมหัวเว่ยยินดีที่จะแข่งขันเพราะจะนำไปสู่การลงทุนด้านโครงสร้าง 5จีที่มีประสิทธิภาพที่สุดและจะเกิดประโยชน์กับสาธารณชนโดยรวมในทุกประเทศคำแนะนำคือการมุ่งหน้าสู่ดิจิทัลไม่ใช่การเมือง