ส.บ.ม.ท. ออกแถลงการณ์ประณามแก๊งโจ๋บุกถล่มสนามสอบร.ร.วัดสิงห์

ส.บ.ม.ท. ออกแถลงการณ์ประณามแก๊งโจ๋บุกถล่มสนามสอบร.ร.วัดสิงห์

สมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ประณามการกระทำของผู้ที่บุกเข้าไปทำร้ายครูและนักเรียนที่กำลังดำเนินการสอบ PAT5 ในโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์

จากกรณีเหตุการณ์แก๊งโจ๋งานบวชบุกถล่มการสอบ GAT/PAT โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ เมื่อทางโรงเรียนได้มีการจัดการสอบของนักเรียน ทางผู้อำนวยการจึงได้ไปขอความร่วมมือจากทางวัดสิงห์ซึ่งขณะนั้นมีงานบวชให้ลดเสียงลงหน่อย เป็นเหตุให้กลุ่มวัยรุ่นที่มาร่วมงานเกิดความไม่พอใจและยกพวกมารุมทำร้ายเจ้าหน้าที่ รปภ. ครู และนักเรียนจนได้รับบาดเจ็บหลายคน

ล่าสุด วันนี้(25 ก.พ.62) ทางสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์สมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย เรื่อง ประณามการกระทำของกลุ่มบุคคล ความว่า

ตามที่มีกลุ่มบุคคลจำนวนหนึ่งได้บุกรุกสถานที่ราชการโดยได้บุกรุกเข้าไปในโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ กรุงเทพมหานคร แล้วได้ทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ทำร้ายร่างกายผู้อำนวยการโรงเรียน ทำร้ายร่างกายข้าราชการครู ทำร้ายร่างกายนักเรียนทั้งชายและหญิง ทำร้ายร่างกายบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียน โดยผู้ถูกทำร้ายร่างกายหลายรายได้รับอันตรายแก่ร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและกลุ่มบุคคลดังกล่าวยังมีพฤติกรรมหน่วงเหนี่ยวกักขังและกลุ้มรุมกระทำอนาจารนักเรียนหญิง เหตุเกิดเวลากลางวันเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ขณะที่มีนักเรียนหลายคนหลายโรงเรียนกำลังทำข้อสอบ Pat 5 นั้น สมาคมเห็นว่าพฤติการณ์ของกลุ่มบุคคลดังกล่าวเป็นการกระทำที่อุกอาจเป็นภัยสังคม ไม่เกรงกลัวกฎหมายที่ไม่อาจให้อภัยได้ จึงขอประณามการกระทำของกลุ่มบุคคลดังกล่าว และขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ของรัฐดำเนินคดีกับบุคคลกลุ่มนี้อย่างเฉียบขาดให้ได้รับโทษสูงสุด และขอเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นผู้ประสานดูแลผู้เสียหายทั้งในเรื่องคดีอาญาและการเรียกให้มีการชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและผู้ที่ถูกกระทำอนาจารในอัตราที่สูงที่สุด อย่างไรก็ตามหากบรรดาผู้เสียหายต่างๆประสงค์ให้สมาคมดูแลช่วยเหลือในทางคดีทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา สมาคมก็พร้อมที่จะส่งคณะทำงานด้านกฎหมายไปให้ความช่วยเหลือดูแล

S__4358233

ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้เร่งให้เจ้าหน้าที่จับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้มารับโทษดำเนินคดีตามกฎหมายให้เร็วที่สุด เพราะพฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นภัยสังคมอย่างยิ่ง พร้อมกันนี้ได้กำชับผู้บังคับบัญชาทุกพื้นที่ ให้กำหนดมาตรการป้องกันเหตุ เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุร้ายขึ้นอีก โดยหากเกิดเหตุต้องติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดได้โดยเร็ว

และรายงานระบุว่าขณะนี้สามารถจับกุมมาได้ 24 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลเพื่อหาผู้ต้องหาที่เหลือ เพื่อดำเนินการขออนุมัติหมายจับต่อไป เพื่อไม่ให้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี เพราะถือเป็นการท้าทายกฎหมาย