อ่อนตัว

อ่อนตัว

SET Index วานนี้ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค

จากความหวังว่าแนวโน้มการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนเป็นไปในทิศทางที่ดี ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น ช่วยหนุนกลุ่ม ENERG ขณะที่ยังไม่มีปัจจัยใหม่ภายในประเทศ ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,647.32 จุด (+1.94 จุด) Volume 4.5 หมื่นลบ. จาก Foreign Net  -260.85 ลบ. TFEX Net +10,197 สัญญา และ ตลาดตราสารหนี้ -3,808 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานลดลง 23,000 รายสู่ 216,000 ราย ขณะที่ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.2%

+ดัชนี PMI รวมภาคการผลิต-บริการเบื้องต้นเดือนก.พ.ของสหรัฐเพิ่มขึ้นแตะ 55.8

+สหรัฐ-จีนเปิดฉากเจรจาการค้ารอบใหม่ที่กรุงวอชิงตันแล้ว

+ดัชนี PMI รวมภาคผลิต-บริการยูโรโซนเบื้องต้นเดือนก.พ.ขยับขึ้นแตะ 51.4

+ส.อ.ท.เผยดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ม.ค.62 ที่ 93.8 จาก 93.2 ใน ธ.ค.61

-ดาวโจนส์ปิดลบ 103.81 จุด วิตกข้อมูลศก.สหรัฐซบเซา,หุ้นพลังงาน-สุขภาพร่วง

-น้ำมัน WTI ปิดลบ 20 เซนต์ วิตกสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งต่อเนื่อง

-สหรัฐเผยยอดขายบ้านมือสองเดือนม.ค.ดิ่งลง 1.2% แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี

-เฟดฟิลาเดลเฟียเผยดัชนีการผลิตเดือนก.พ.ร่วงแตะ -4.1 ติดลบเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี

-"ฟิทช์" อาจหั่นเครดิตสหราชอาณาจักรลงจากระดับ AA เหตุสถานการณ์ Brexit ไม่แน่นอน

+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะซื้อ YTD 5.4 พันล้านบาท ค่าเงินบาท 31.21 บาท/US

คาดดัชนี SET วันนี้อ่อนตัวลงตามตลาดดาวโจนส์และตลาดในภูมิภาคหลังสหรัฐเผยตัวเลขเศรษฐกิจออกมาอ่อนแอ อีกทั้งราคาน้ำมันที่เริ่มปรับตัวลงเป็นปัจจัยกดดันตลาดเพิ่มเติม คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,635-1,655 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • FTSE Large Cap : HMPRO* GULF EA MINT MAKRO BEM, DIF
  • FTSE Mid Cap MTC* GPSC
  • หุ้นได้ประโยชน์จากการเลือกตั้ง VGI PLANB MACO CPALL MAKRO BJC TKS
  • ขยายเวลา VOA AOT CENTEL ERW
  • High Div : KAMART SIRI SNC ORI DIF BTSGIF SC MC AIT QH KKP TKS

         *ผลตอบแทน YTD น้อยกว่าดัชนี

หุ้นแนะนำพิเศษ

CPF (ราคาปิด 26.50 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 30.96)

  • รายงานกำไรสุทธิปี 61 อยู่ที่ 15,531 ลบ. ทรงตัวจากปีก่อน ถึงแม้บริษัทจะสามารถสร้างยอดขายได้เพิ่มขึ้นราว 8%YoY สู่ 4 แสนลบ. แบ่งเป็นจากจีนเพิ่มขึ้นราว 15%YoY สู่ 1.42 แสนลบ. และเวียดนามเพิ่มขึ้นราว 26%YoY สู่ 8.1 หมื่นลบ.จากราคาหมูที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่ยอดขายในไทยทรงตัวตามราคาขายผลิตภัณฑ์ที่ใกล้เคียงเดิม โดยบริษัทสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นได้ที่ 12% แต่มีค่าใช้จ่ายทางภาษีที่เพิ่มขึ้นราว 285%YoY สู่ 6,212 ลบ. ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายเพียงครั้งเดียว เป็นปัจจัยกดดันผลการดำเนินงานในปี 61 โดยบริษัทประกาศจ่ายเงินปันผล 0.3 บาท/หุ้น yield  1.1% XD 7 พ.ค. วันจ่าย 23 พ.ค.
  • ผู้บริหารให้มุมมองเกี่ยวกับการดำเนินงานในปี 62 ไว้ดังนี้ 1) ราคาหมูในไทยจะปรับตัวขึ้นหลังอุปทานเริ่มลดลง โดยปัจจุบันราคาเริ่มปรับตัวสูงขึ้นสู่ 72 บาท/kg +16%QoQ +61%YoY 2) ราคาหมูที่เวียดนามจะยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง จากอุปทานที่ลดลงเนื่องจากโรค African Swine Fever 3) บริษัทยังคงแผนการขยายกิจการไปยังต่างประเทศเพิ่มเติมเพื่อกระจายความเสี่ยง 4) บริษัทมีแผนผลิตสินค้าเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มอัตรากำไรและลดความผันผวนของผลการดำเนินงานของบริษัท
  • ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกกับผลการดำเนินงานในปี 62 จากราคาหมูในไทยที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจาก CPF ในไทยมีสัดส่วนการผลิตเนื้อสัตว์ที่ราว 28% ของยอดขายทั้งหมดโดย Bloomberg Consensus คาดการณ์กำไรสุทธิปี 62 ที่ราว 11,346 ลบ. -25%YoY

หุ้นมีข่าว   

·         DOD (ราคาปิด 11.70  ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่างการปรับประมาณการเชิงลบ ) รายงานกำไรสุทธิปี 61 ที่ 306 ลบ. +155%YoY เติบโตตามรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้นราว 72%YoY สู่ 666 ลบ. เนื่องจากมีคำสั่งซื้อต่อเนื่องจากลูกค้ารายเดิมและรายใหม่ และบริษัทสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายลดลงจาก 21% ในปี 60 สู่ 16% ในปี 61 อย่างไรก็ตามหากพิจารณาเฉพาะงบการเงินในช่วง 4Q61 ยอดขายของบริษัทได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญราว 61%QoQ และ 31%YoY สู่ 61 ลบ. ส่งผลให้กำไรสุทธิลดลงเหลือเพียง 9 ลบ. -87%QoQ -50%YoY เราจึงอยู่ระหว่างการปรับประมาณการสำหรับปี 62 เชิงลบ

·         CPALL (ราคาปิด 76.75 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 82.83 ) โชว์ผลงานปี 2561 กำไรทะลุ 2 หมื่นล้านบาท มีรายได้กว่า 5.27 แสนล้านบาท จากการขายสินค้าและค่าบริการร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven และแม็คโคร พร้อมจ่ายปันผลอีก 1.20 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD วันที่ 3 พฤษภาคม 2562 ขณะที่วางงบลงทุน 1.15-1.2 หมื่นล้านบาท ขยายสาขาใหม่-ปรับปรุงสาขาเดิม-ศูนย์กระจายสินค้า-ทำโครงการใหม่ ตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่ปีนี้ 700 สาขา คาดครบ 13,000 สาขา ภายในปี 2564 (ที่มา : ทันหุ้น)

·         + SAWAD เปิดทางกลุ่มคาเธ่ย์ฯ จากไต้หวันเข้าซื้อหุ้น จะช่วยต่อยอดธุรกิจในอนาคต โดยเฉพาะการรุกเข้าในประเทศกลุ่ม CLMV ส่วนแผนปี 62 สินเชื่อจะเติบโตสนั่นทุ่งกว่า 30% เช่นเดียวกับกำไรที่จะโตไปในทิศทางเดียวกัน ด้านโบรกฯ มองพันธมิตรจากไต้หวัน จะช่วยสร้างโอกาสของ SAWAD มากขึ้นเพื่อรุกต่างประเทศ (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         PTT (ราคาปิด 48.75 ราคาเหมาะสม 53.6) รายงานกำไรปี 61 ที่ 1.19 แสนล้านบาทต่ำกว่าที่เราคาดไว้ 7% เนื่องจาก 4Q61 ธุรกิจโรงกลั่นที่อ่อนตัวลงอย่างมากตามค่าการกลั่นและมีผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันดิบหลังราคาน้ำมันปรับตัวลงกว่า 40% สู่ระดับ 45 $/bbl นอกจากนี้ผลประกอบการธุรกิจก๊าซธรรมชาติอ่อนตัวลงตามธุรกิจปิโตรเคมีหลังราคาผลิตภัณฑ์ปรับตัวลงตามราคาน้ำมัน 

·         BANPU (ราคาปิด 16.70 Bloomberg 21.44) รายงานกำไรปี 61 ที่ 6.7 พันล้านบาท -15%YoY แม้ว่าราคาถ่านหินเฉลี่ยจะสูงกว่าปี 60 แต่ต้นทุนที่ปรับตัวขึ้นคอยกดดันกำไร นอกจากนี้ในไตรมาส 4Q61 ผลการดำเนินงานอ่อนตัวลงจากธุรกิจโรงไฟฟ้าหลังโรงไฟฟ้า BLCP หยุดซ่อมบำรุงใหญ่ และในไตรมาส 1/61 มีจ่ายค่าคดีความไป 2.7 พันล้านบาท

·         EPG (ราคาปิด 7.20 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 9.14 ) จัดงบลงทุน 650 ล้านบาท สร้างโรงงาน-ซื้อกิจการ โชว์กำไรสะสมประมาณ 3,500 ล้านบาท และมีอัตราหนี้สินต่อทุนเพียง 0.3 เท่า และมีวงเงินหุ้นกู้ที่รอเสนอขาย 2,000 ล้านบาท ลั่นปีหน้ารายได้ทะยาน 10% รับฐานลูกค้าโต-กำลังผลิตใหม่ แจงค่าเงินบาทแข็งกระทบธุรกิจน้อย เหตุหันปรับสกุลเงินขายเป็นหยวน-นำเข้าวัตถุดิบเพิ่ม แถมส้มหล่นรับราคาน้ำมันอ่อนตัว(ที่มา : ทันหุ้น)

·         กลุ่มพราว ธุรกิจอสังหาในตระกูลลิปตพัลลภ เตรียมเข้าแบ็กดอร์ FOCUS หลังบอร์ดเพิ่มทุนมโหฬาร 451.39 ล้านหุ้น ขาย PP ให้ "พสุ-พราวพุธ ลิปตพัลลภ" ตระกูลลิปตพัลลภ ในราคา 1.44 บาท ขึ้นแท่นหุ้นใหญ่ 70% พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท พราว เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) "PROUD" (ที่มา : ทันหุ้น)

·         BCPG (ราคาปิด 16.60 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 19.00 ) อัดฉีดงบ 8,600 ล้านบาท ลุยขยายกิจการใหม่และโครงการเดิม หวังสร้างการเติบโตยั่งยืน พร้อมอวดกำไรปี 61 แตะ 2,219 ล้านบาท หลังบุ๊กขายสินทรัพย์เข้ากองทุนประเทศญี่ปุ่น ซดกำไรเต็มปีจากโครงการในฟิลิปปินส์-อินโดนีเซีย ควักปันผล 0.16 บาท ขึ้น XD 5 มี.ค.นี้ (ที่มา : ทันหุ้น)

         - NYT ส.อ.ท.เผยยอดส่งออกรถยนต์ ม.ค.62 ลดลง 0.59% มาที่ 81,583 คัน

  • + BDMS เตรียมบุ๊กรายการพิเศษขายหุ้น RAM ราว 4.7 พันล้านบาทช่วงไตรมาส 1/2562 เดินหน้าขยายฐานผู้เข้าใช้บริการต่อเนื่อง หนุนปีนี้ผลงานโตต่อเนื่อง พร้อมอัดงบ 2.1 พันล้านบาท เปิดโรงพยาบาลเพิ่มอีก 3 แห่ง ดันจำนวน รพ.แตะ 50 แห่งปี 2564 (ที่มา ทันหุ้น)
  • BG โชว์กำไร Q4/2561 ดีกว่าคาด แต่ทั้งปีกำไรสุทธิลดลงเล็กน้อย ภาพการฟื้นตัวชัด (ที่มา ทันหุ้น)