ประชาชนเนืองแน่นร่วมเจริญพุทธมนต์อุทิศถวาย ร.2 และ ร.9

ประชาชนเนืองแน่นร่วมเจริญพุทธมนต์อุทิศถวาย ร.2 และ ร.9

ประชาชนเนืองแน่นร่วมเจริญพุทธมนต์อุทิศถวาย ร.2 และ ร.9

เมื่อวันที่ 20 ก.พ.62 เวลา 18.04 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ ไปในพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวาย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระลานพระราชวังดุสิต

เมื่อพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ผู้แทนพระองค์ เดินทางถึงพระลานพระราชวังดุสิต ผู้แทนพระองค์ วางพวงมาลัย และจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แล้วเข้าพลับพลาพิธี จุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัยยุคกลาง จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เจ้าหน้าที่กรมการศาสนาอาราธนาศีล สมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ประธานสงฆ์ให้ศีล พระสงฆ์ 145 รูป สวดมาติกา จบแล้ว ผู้แทนพระองค์ทอดผ้าไตร ที่อาสน์สงฆ์แถวหน้า 10 รูป

นอกนั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทอดผ้าไตรจนครบ 145 รูป เสร็จแล้ว พระสงฆ์ 145 รูป สดับปกรณ์ ผู้แทนพระองค์ กรวดน้ำ พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก เจ้าหน้าที่กรมการศาสนาอาราธนาพระปริตร พระสงฆ์ 145 รูป เจริญพระพุทธมนต์ถวายสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช พระสยามเทวาธิราช พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ และประชาชน ณ พระลานพระราชวังดุสิต และในต่างจังหวัด สวดมนต์พร้อมกัน จบแล้ว ผู้แทนพระองค์ ประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์ 10 รูป นอกนั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์จนครบ 145 รูป ผู้แทนพระองค์ กรวดน้ำ พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ผู้แทนพระองค์ กราบที่หน้าเครื่องนมัสการ กราบที่หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และพระฉายาลักษณ์ ถวายความเคารพพระราชอาสน์ ผู้แทนพระองค์ เดินออกจากพลับพลาพิธี ไปยังรถยนต์ประเทียบ ขึ้นรถยนต์ประเทียบ แล้วเดินทางกลับจากนั้นผู้ร่วมในพิธียืนประนมมือส่งริ้วขบวนอัญเชิญพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัย ยุคกลาง ขึ้นพระราชยานออกจากพลับพลาพิธีกลับมาประดิษฐาน ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต

ต่อมา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลอากาศตรี สุพิชัย สุนทรบุระ อัญเชิญพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัย ยุคกลาง
ไปในพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระลานพระราชวังดุสิต

เมื่อพลอากาศตรี สุพิชัย สุนทรบุระ ถึงยังพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ขึ้นไปยังห้องพระ ชั้น 3 วางพวงมาลัย จุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธรูป และอัญเชิญพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัย ยุคกลาง ประดิษฐานบนพระราชยานไปยังพลับพลาพิธี ณ พระลานพระราชวังดุสิต โดยพลอากาศตรี สุพิชัย สุนทรบุระ เดินนำพระราชยานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัย ยุคกลาง จากหน้าพระที่นั่งอัมพรสถาน ไปยังหน้าประตูภูธรลีลาศ ซึ่งมีริ้วขบวนตั้งรออยู่ เมื่อพระราชยานถึงประตูภูธรลีลาศ พลอากาศตรี สุพิชัย สุนทรบุระ เข้าริ้วขบวนอัญเชิญพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัย ยุคกลาง ไปยังพลับพลาพิธี ณ พระลานพระราชวังดุสิต ภายหลังเสร็จจากพิธีแล้ว สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลอากาศตรี สุพิชัย สุนทรบุระ อัญเชิญพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัย ยุคกลาง กลับมาประดิษฐาน ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต

อนึ่ง พระพุทธรูปศิลปะสุโขทัย ยุคกลาง ปางมารวิชัย พระเกศยอดปลี สร้างด้วยเนื้อทองสัมฤทธิ์ ประมาณศตวรรษที่ 20 อายุประมาณ 500-600 ปี ฝีมือช่างหลวง จัดได้ว่าเป็นพระพุทธรูปสวยงาม หาได้ยากยิ่ง เนื่องจากเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ (หน้าตัก 29 นิ้ว) และที่บริเวณฐานด้านหน้ามีจารึกเป็นภาษาไทยสุโขทัยว่า “พระเจ้าตนนี้ปู่สกพ่อ ... หากกระทำ เอ.... แลจักปรารถนาพระศรีอารไมยตรีเจ้าแล" แปลความหมายว่า ผู้สร้างพระพุทธรูปองค์นี้ สร้างให้แก่ผู่ที่เคารพนับถือ หากสิ้นชีวิตไปแล้ว ก็ขออธิษฐานให้ไปสู่นิพพาน และไปพบพระศรีอารย์ ด้วยเทอญ