วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (18 ก.พ.62)

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (18 ก.พ.62)

ราคาน้ำมันดิบเพิ่มต่อ หลังหลายฝ่ายกังวลอุปทานตึงตัวจากซาอุดิอาระเบีย

+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังนักลงทุนเกิดความกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่มีแนวโน้มตึงตัวขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ หลังซาอุดิอาระเบียปิด Safaniyah แท่นขุดเจาะกลางทะเลที่ใหญ่ที่สุดลงบางส่วนเพื่อซ่อมแซมสายเคเบิลหลักที่ถูกตัดขาดจากอุบัติเหตุของสมอเรือที่เข้าเทียบท่าตั้งแต่สองสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่ามีการแจ้งว่าการซ่อมแซมมีความคืบหน้าไปมาก แต่วันที่จะกลับมาเปิดดำเนินการยังคงไม่แน่ชัด

+ ซาอุดิอาระเบียคาดจะผลิตน้ำมันดิบราว 9.8 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน มี.ค. ที่จะมาถึง ซึ่งเป็นการปรับลดกำลังการผลิตมากกว่าระดับที่ตกลงกันในมติการประชุมเพื่อปรับลดกำลังการผลิตระหว่างกลุ่มประเทศโอเปก (OPEC) และประเทศพันธมิตร ซึ่งจะส่งผลให้การส่งออกน้ำมันดิบในเดือน มี.ค. ปรับลดลงเป็น 6.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน

+ หลายฝ่ายจับตามองการประชุมเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า ณ กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐฯ โดยนาย Donald Trump แสดงท่าทียินดีที่จะขยายการผ่อนผันการเพิ่มภาษีการค้าจาก 1 มี.ค. ที่จะมาถึงออกไป ขณะที่นาย Xi Jinping คาดการประชุมจะเป็นอย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อผ่อนผันความตึงเครียด

- Baker Huges เผย สหรัฐฯ เพิ่มแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบอีก 3 แห่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้มีจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบรวม 857 แท่น

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่ปรับตัวดีขึ้นโดยเฉพาะจากประเทศอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตาม ตลาดเอเชียยังคงได้รับแรงกดดันจากอุปทานน้ำมันเบนซินที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นโดยเฉพาะจากประเทศจีน

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางราคากับน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากผู้ค้าคาดการณ์สภาพตลาดมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม อุปทานในเอเชียยังคงล้นตลาด และไม่สามารถระบายออกไปยังภูมิภาคอื่นได้ ขณะที่จีนมีแนวโน้มส่งออกเพิ่มขึ้น

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า

          ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 51-56 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

          ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 61-66 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

  • ติดตามผลการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปค หลังประกาศร่วมมือกันปรับลดกำลังการผลิตลงราว 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับในเดือนต.ค. 61 เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันดิบโลก โดยในเดือนก.พ. 62 ผู้ผลิตน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับลดลงกำลังการผลิตมากขึ้
  • จับตาการเจรจาเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่สหรัฐฯ จะมีการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่ากว่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ราวร้อยละ 25 ในเดือนมี.ค. 62 โดยล่าสุดในการประชุมเจรจาการค้าวันที่ 14-15 ก.พ. ที่ผ่านมา ระหว่างนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีนกับนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ และนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ในกรุงปักกิ่ง ส่งสัญญานเชิงบวก
  • สำนักงานพลังงานสากล (IEA) เผยว่าตลาดน้ำมันดิบมีแนวโน้มอยู่ในภาวะอุปทานล้นตลาดในปี 62 แม้ว่ากลุ่มโอเปคจะปรับลดกำลังการผลิต และสหรัฐฯ จะประกาศคว่ำบาตรอิหร่าน และเวเนซุเอลา เนื่องจาก IEA คาดการณ์ว่ากำลังการผลิตน้ำมันดิบของผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปคจะปรับเพิ่มขึ้นราว 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยการผลิตจากสหรัฐฯ ในขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันโลกคาดว่าจะเติบโตที่ราว 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน

--------------------------------------

ที่มา : บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)          

         โทร.02-797-2999