'เพื่อนไทย' จ่อถูกตัดสิทธิส.ส.แบบเเบ่งเขต - ปาร์ตี้ลิสต์ยกพรรค

'เพื่อนไทย' จ่อถูกตัดสิทธิส.ส.แบบเเบ่งเขต - ปาร์ตี้ลิสต์ยกพรรค

"เพื่อนไทย" จ่อถูกตัดสิทธิไม่ได้รับการประกาศชื่อส.ส.แบบเเบ่งเขต - ปาร์ตี้ลิสต์ ยกพรรค เหตุกกต.แจ้งการจัดตั้งสาขา-ตัวแทนพรรคการเมืองใน 39 จังหวัดไม่ถูกต้อง

เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายอนุวัฒน์ วิกัยพัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อนไทย กล่าวภายหลังเข้าพบเจ้าหน้าที่ด้านกิจการพรรคการเมืองของสำนักงาน กกต.เพื่อยืนยันว่า ตนเองและกรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบันได้รับเลือกอย่างถูกต้องตามข้อบังคับพรรค หลังจากที่ได้รับหนังสือมอบอำนาจ จากนายสิริ พิมพ์กลาง อดีตหัวหน้าพรรคคนเดิมแจ้งมอบอำนาจให้ตน ซึ่งเป็นเลขาธิการพรรคในขณะนั้นได้มีอำนาจทำการแทนทุกอย่าง ดังนั้นการจัดตั้งสาขาพรรคและตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดพรรค และการส่งผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตทั้ง 240 คน ใน 39 จังหวัด รวมทั้งส.ส.บัญชีรายชื่อ 52 คน และแคนดิเนตนายกรัฐมนตรี 3 คนจึงเป็นไปอย่างถูกต้อง ดังนั้นถ้าหากผู้สมัครของพรรคไม่ได้รับการประกาศชื่อจากผู้อำนวยการประจำเขตเลือกตั้ง และกกต. ทางพรรคก็จะดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลฎีกา เพื่อให้คืนสิทธิดังกล่าวรวมทั้งหากท้ายที่สุดแล้วไม่สามารถกลับมาเป็นผู้สมัครได้ก็จะฟ้องเรียกค่าเสียหายกับทาง กกต.

โดยระหว่างรอพบเจ้าหน้าที่ นายอนุวัฒน์ ได้พบกับนายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. โดยนายแสวง ได้ชี้แจงว่า ทราบจากเจ้าหน้าที่ว่าปัญหาของพรรคคือการประชุมกรรมการบริหารพรรคไม่ชอบ ซึ่งก็มีผลตามมาให้ข้อบังคับที่ออกมา และการเลือกสาขาและตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดของพรรคไม่ชอบไปด้วย ถ้าหากพรรคมีหลักฐานยืนยันว่ากระทำการถูกต้องก็ไปสู้ในศาลฎีกา

ทั้งนี้ ในช่วงเย็นวานนี้ ( 14ก.พ.) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ได้มีหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทั่วประเทศ แจ้งข้อมูลล่าสุดเพื่อให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดใช้พิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครส.ส.แบบแบ่งเขต ก่อนที่จะต้องประกาศรับรองรายชื่อผู้สมัครทั้ง 350 เขตในวันนี้ โดยข้อมูลที่ส่งเป็น ผลการตรวจสอบสถานภาพพรรคการเมืองที่ไม่มีสิทธิส่งสมัครรับเลือกตั้งส.ส. ล่าสุดพบว่าบางพรรคยังไม่มีการจัดตั้งสาขาหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดให้ถูกต้อง

โดยแยกเป็นรายจังหวัด พบว่ามี 7 พรรคการเมือง คือ 1. พรรคเพื่อนไทย ไม่มีสิทธิที่ส่งสมัครส.ส.แบบแบ่งเขตใน 39 จังหวัด คือ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี อุทัยธานี อุดรธานี อ่างทอง หนองบัวลำภู หนองคาย สุรินทร์ สุพรรณบุรี สิงห์บุรี สระบุรี สระแก้ว สกลนคร ศรีสะเกษ เลย ลพบุรี ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร มหาสารคาม เพชรบูรณ์ เพชรบุรี พิจิตร อยุธยา ปราจีนบุรี ปทุมธานี บุรีรัมย์ บึงกาฬ นนทบุรี นครสวรรค์ นครราชสีมา นครพนม ชัยภูมิ ชัยนาท ฉะเชิงเทรา ขอนแก่น กำแพงเพชร กาฬสินธุ์ กาญจนบุรี และกทม.  2.พรรคแทนคุณแผ่นดิน ไม่มีสิทธิส่งสมัครส.ส.เขตในจังหวัดสระบุรี เชียงราย และกทม. 3.พรรคพลังไทสร้างชาติ ไม่มีสิทธิส่งสมัครส.ส.เขตในจังหวัดอุตรดิตถ์ และนครราชสีมา 4.พรรคประชาธิปไตยใหม่ ไม่มีสิทธิส่งสมัครส.ส.เขตในจหวัดหนองคาย 5.พรรคคนงานไทย ไม่มีสิทธิส่งสมัครส.ส.ในเขตจังหวัดสงขลา และศรีสะเกษ 6.พรรคพลังคนกีฬา ไม่มีสิทธิส่งสมัครผู้สมัคร ส.ส.ในจังหวัดสกลนคร และ 7.พรรคพลังประชาธิปไตย ไม่มีสิทธิส่งผู้สมัคร ส.ส.เขตในจังหวัดพิษณุโลก และจันทบุรี

นอกจากนี้ยังมีการรายงานผลการตรวจสอบการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองที่ไม่พบชื่อผู้สมัครส.ส.แบบแบ่งเขตในระบบฐานข้อมูลสมาชิกพรรคการเมืองและไม่เป็นผู้ร่วมจัดตั้งพรรคที่พ.ร.ป.ว่าด้วยเลือกตั้งส.ส.มาตรา 172 ให้สิทธินับการเป็นสมาชิกนับตั้งแต่วันที่ยื่นคำขอจดทะเบียนจัดตั้งพรรค โดยเป็นข้อมูล ณ วันที่ 14 ก.พ. พบว่ามีผู้สมัครส.ส.เขตที่เข้าข่ายดังกล่าวรวม 255 ราย และผลการตรวจสอบสมาชิกพรรคของผู้สมัครส.ส.ที่บันทึกเข้าระบบฐานข้อมูลพรรคกรณีพบว่า เป็นสมาชิกพรรคการเมืองเดียวไม่ครบ 90 วันตามรัฐธรรมนูญมาตรา 96(3) ประกอบมาตรา 41( 3) และเป็นสมาชิกพรรคซ้ำซ้อน ลงวันที่ 14 ก.พ.นี้ พบว่ามีผู้สมัครส.ส.เขตที่เข้าข่ายดังกล่าวรวม 246 ราย รวมจะมีผู้ที่เข้าข่ายถูกตัดสิทธิไม่ประกาศรายชื่อจากทั้ง 3 กรณีดังกล่าว 502 คน

อย่างไรก็ตามหลังการปิดรับสมัครเมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา บรรดาพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครต่างก็ส่งผู้แทนพรรคมาแจ้งข้อมูลสมาชิกของพรรค การจัดตั้งสาขาและกรรมการบริหารพรรคอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งสัปดาห์นี้ แม้กระทั่งวันนี้ (15 ก.พ.)ซึ่งเป็นสุดท้ายที่ผู้อำนวยการประจำเขตเลือกตั้งจะต้องตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครส.ส.ในระบบแบ่งเขตให้แล้วเสร็จและประกาศรับรองรายชื่อผู้ที่มีสิทธิลงสมัครในแต่ละเขตทั้ง 350 เขต ผู้แทนของพรรคการเมืองก็ยังเดินทางมาขอแก้ไขอัพเดทข้อมูลที่สำนักงานกกต.อยู่ตลอด

อย่างไรก็ตามกรณีที่ผู้สมัครรายใดถูกตัดสิทธิไม่ได้รับการประกาศรายชื่อให้เป็นผู้สมัครจะไม่ได้รับเงินค่าสมัคร 1 หมื่นบาท โดยเป็นไปตามมาตรา 45(3)พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ประกอบพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 78(4) ทึ่กำหนดให้ค่าธรรมเนียมการรับสมัครเลือกตั้งตกเป็นของกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง ซึ่งในกรณีของพรรคเพื่อนไทย เมื่อถูกตัดสิทธิไม่ได้รับการประกาศรายชื่อให้เป็นผู้สมัครทั้งผู้สมัครส.ส.ระบบแบ่งเขตและระบบบัญชีรายชื่อรวม 292 คน เงินค่าสมัครจำนวน 2.92 ล้านก็จะไม่ได้รับคืนเช่นกัน.