อ่อนตัว

พร้อมกับติดตามการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน  อย่างไรก็ตาม นักลงทุนสถาบันมีสถานะซื้อสุทธิกว่า 2,700 ลบ. ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,652.64 จุด (-3.09 จุด) Volume 4.6 หมื่นลบ. จาก Foreign Net  -2,444.68 ลบ. TFEX Net -14,794 สัญญา และ ตลาดตราสารหนี้ +1,277 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+น้ำมัน WTI ปิดบวก 51 เซนต์ รับความหวังสหรัฐ-จีนบรรลุข้อตกลงการค้า

+"ทรัมป์"วางแผนลงนามร่างกม.งบประมาณเลี่ยงชัตดาวน์ แต่เตรียมประกาศภาวะฉุกเฉินสร้างกำแพงกั้นเม็กซิโก

+ปธ.เฟดฟิลาเดลเฟียหนุนเฟดขึ้นดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปีนี้และปีหน้า

+สหรัฐขาดดุลงบประมาณ 1.35 หมื่นล้านดอลล์ในเดือนธ.ค. ลดลง 40% เทียบรายปี

+สื่อเผย "ทรัมป์" อาจเลื่อนกำหนดเส้นตายบรรลุข้อตกลงการค้ากับจีนออกไป 60 วัน หากการเจรจาส่งสัญญาณบวก

+ธปท.รับบาทแข็งค่าเร็วจากปัจจัยภายนอก แต่ยังไม่พบความผิดปกติ-ติดตามใกล้ชิด

-ดาวโจนส์ปิดลบ 103.88 จุด หลังยอดค้าปลีกสหรัฐร่วงหนักสุดในรอบ 9 ปี

-สหรัฐเผยยอดค้าปลีกดิ่ง 1.2% ในเดือนธ.ค. ทรุดหนักสุดรอบกว่า 9 ปี

-สหรัฐเผยดัชนี PPI ลดลง 0.1% ในเดือนม.ค. ปรับตัวลงติดต่อกัน 2 เดือน

-สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้น4,000 ราย สู่ระดับ 239,000 ราย สวนทางคาดการณ์ลดลง

-ทริสฯ คาด GDP ไทยปี 62 โต 3.9% ชะลอจากโต 4% ในปี 61 สินเชื่อนอนแบงก์-ธุรกิจเกษตร/อาหารยังเผชิญปัจจัยท้าทาย

+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะซื้อ  YTD 1.4 พันล้านบาท ค่าเงินบาท 31.29 บาท/US

คาดดัชนี SET วันนี้มีโอกาสอ่อนตัวต่อเนื่องจากวานนี้จากตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปิดลดลงและตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาแย่ ปัญหาสหรัฐชัตดาวน์คลี่คลาย และ fund flow ไหลออก โดยมีปัจจัยบากจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น และปัจจัยการเมืองที่มีความไม่แน่นอน  คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,640-1,660 จุด

กลยุทธ์การลงทุน  

• หุ้นได้ประโยชน์จากการเลือกตั้ง VGI PLANB MACO CPALL MAKRO BJC TKS
• ขยายเวลา VOA AOT CENTEL ERW
• High Div : KAMART SIRI SNC ORI DIF BTSGIF SC MC AIT QH KKP TKS
• CPALL MAKRO ช็อปตรุษจีนวันที่ 1-15 ก.พ.

หุ้นแนะนำพิเศษ

FSMART (ราคาปิด 7.30 มุมมองบวก)

• เช้านี้ FSMART รายงานกำไรปี 61 เท่ากับ 583 ล้านบาท +7% ดีกว่าที่คาดว่าจะโดนผลกระทบจากแบงก์ให้บริการฟรีผ่าน Internet banking และ mobile app ยอดโอนเฉลี่ยใน 4Q61 เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ โดยเท่ากับ 30,006 บาทสูงกว่าระดับ 28,689 บาทในช่วง 3Q61 และ 23,062 บาทในช่วง 4Q60 จำนวนตู้บุญเติมเพิ่มขึ้น 4.3% ขณะที่มูลค่าเติมเงินรวมเพิ่มขึ้น 16% อย่างไรก็ดี อัตรากำไรขั้นต้นปี 61 ที่ 21.2% ยังต่ำกว่าระดับ 23.6% ในปี 60
• คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วง 1Q62 เติบโตดีต่อเนื่องจากที่ประเมินยอดโอนเฉลี่ยน่าจะทำได้ใกล้เคียงQoQ หรือสูงกว่าจากอานิสงส์ของช่วงเวลาหาเสียงเลือกตั้งทำให้ธุรกรรมโอนเงินเพิ่มขึ้น
• แผนงานปี 62 จำนวนตู้บุญเติมเพิ่มขึ้น 5,000 ตู้ พัฒนาตู้เติมเงินอัจฉริยะเพื่อรองรับการจำหน่ายซิมการ์ดและการเปิดบัญชีเงินฝากอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC) รวมทั้งเพิ่มบริการโอนเงิน (Banking Agent) 2 ธนาคารรวมเป็น 5 ธนาคาร ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกจากผลการดำเนินงานที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และรอพัฒนาการที่ดีขึ้นต่อเนื่องในอนาคต

หุ้นมีข่าว   

·      KCE Analyst Meeting ราคาปิด 29 บาท Bloomberg consensus 35.38บาท “ชะลอลงทุน”

รายงานกำไรปี 61 เท่ากับ 2,014 ลบ. -20.8%YoY มีสาเหตุหลักจากระบบการทดสอบการปล่อยมลพิษของยุโรป WLTP ที่เริ่มบังคับใช้เมื่อ ก.ย.61 (ยอดขายในยุโรป คิดเป็น 43.14% ของรายได้รวม) นอกจากนี้ ยังมีผลของราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น และอัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่าขึ้นคอยกดดันผลประกอบการ

แนวโน้มปี 62 คาดยังโดนผลกระทบจาก WLTP พร้อมกับแรงกดดันจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ที่ทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์ของทั้งสองประเทศชะลอตัวลง อย่างไรก็ดี ผบห.มองว่า 1Q19 จะสดใสกว่า 4Q18 ที่ผ่านมา โดยคาด U.rate ของโรงงานที่ลาดกระบังจะปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 85% หลังจาก 4Q18 อยู่ที่ระดับ 80% สนับสนุนให้ %GPM คาดว่าจะปรับตัวขึ้น เนื่องจากเป็นโรงงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในบรรดาโรงงานทั้งหมด ทั้งนี้ ผบห.ปรับลดเป้าปริมาณขายลงจากเดิม 5% โดยคาดว่าปีนี้จะเติบโตเพียงราว 10% นอกจากนี้ ประเด็นมาตรฐานบัญชีใหม่ในการตั้งสำรองผลประโยชน์พนักงานที่มีอายุงานเกินกว่า 20 ปี คาดว่าจะกระทบอีกราว 40 ลบ. โดย Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 62 ราว 2,550.6 ลบ. +26.6%YoY

·      +EA เตรียม COD โรงไฟฟ้าพลังงานลม “หนุมาน” อีก 3 โครงการ กำลังการผลิตรวม 170 MW ภายในปลายก.พ.นี้ หนุนสิ้นปี 62 กำลังการผลิตไฟฟ้าพุ่ง 664 MW (ที่มาข่าวหุ้น)

·      -NOK “การบินไทย”  แจ้งสละสิทธิ์ไม่ใส่เงิน 545 ล้านบาท ซื้อหุ้นเพิ่มทุน NOK จำนวน 198.16 ล้านหุ้น ยอมไดลูทเหลือสัดส่วนถือหุ้น 15.94% จากเดิม 21.80% ฟาก “ดีดี” ชี้แผนฟื้นฟูธุรกิจ NOK ไร้ทิศทาง หวั่นกลายเป็นความเสี่ยงกระทบ THAI (ที่มาข่าวหุ้น)

·      GUNKUL ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป UTC เฟสแรก 1.92 เมกะวัตต์ ศึกษาพลังงานเวียดนาม-มาเลเซีย ลุยประมูล EPC มูลค่า 3 หมื่นล้านบาทหวังได้งาน 10-15% พร้อมซดขายไฟอีก 100 เมกะวัตต์ ดันรายได้ทั้งปีแตะ 7.5 พันล้านบาท (ที่มา : ข่าวหุ้น)

·      BGRIM (ราคาปิด 30.00 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 34.36) แจ้งเพิ่มทุนในบริษัทย่อย "บี.กริม โซลาร์ เพาเวอร์ รูฟท็อป" เป็น 251 ล้านบาท จาก 10 ล้านบาท รองรับการพัฒนาโครงการโซลาร์รูฟท็อป ขนาดรวม 70 เมกะวัตต์ (ที่มา : ข่าวหุ้น)

·      LPN (ราคาปิด 7.30 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus เฉลี่ย 8.56) รายงานกำไรสุทธิปี 61 เท่ากับ 1,367 ล้านบาท พลิกเติบโต29% จากที่หดตัวถึง 51% ในปี 60 โดยมีรายได้หลัก 11,252 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% โครงการที่แล้วเสร็จในปี 61 มีจำนวน 11 โครงการ สัดส่วนรายได้54% จากโครงการที่แล้วเสร็จ และอีก 46% จากการระบายสินค้าพร้อมอยู่ของโครงการที่สร้างแล้วเสร็จในปีก่อนๆ     อัตรากำไรขั้นต้นจากการขายโครงการอสังหาฯ 30.7% ปรับดีขึ้นจาก 28.5% ในปี ุ60 บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.40 บาท คิดเป็น yield 5.5% XD 27 ก.พ.วันจ่าย10 เม.ย.

·      KIAT (ราคาปิด 0.47) แจ้งปี 61 กำไรสุทธิทรุดเหลือ 6 ล้านบาท ลดลง 92% จากปีก่อน แม้มีรายได้ราวเพิ่มขึ้น 21% เป็น 1,069 ล้านบาท รายได้ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นรายได้จากการบริการ-ขนส่งสินค้าทางรถไฟของบริษัทย่อยที่ซื้อกิจการเข้ามาเมื่อ 7 ก.ค. 61  แต่ผลการดำเนินงานลดลงจากต้นทุนเพิ่มขึ้น 27% หลังเปลี่ยนแปลงวิธีปฏิบัติงานของหน่วยราชการ และการที่ลูกค้ายุติธุรกิจแร่สังกะสีทำให้มีรายการด้อยค่าเงินลงทุนในบริษัทย่อยจำนวน 79.5 ล้านบาท