วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (14 ก.พ.62)

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (14 ก.พ.62)

ราคาน้ำมันดิบพุ่งกว่าร้อยละ 2 หลังซาอุดิอาระเบียเล็งลดกำลังการผลิตและปรับลดการส่งออกมากกว่าแผนเดิม

+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่อย่างซาอุดิอาระเบียปรับแผนลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบและการส่งออกมากกว่าที่ตลาดเคยคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังในสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นกดดันตลาดระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย

+ นาย Khalid al-Falih รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของซาอุดิอาระเบีย เปิดเผยต่อ Financial Times ว่า ซาอุดิอาระเบียวางแผนจะผลิตน้ำมันดิบในเดือน มี.ค. 2562 ราว 9.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นปริมาณที่ต่ำกว่าข้อตกลงเดิมที่จะผลิตน้ำมันดิบ 10.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ถึง 500,000 บาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้คาดว่าการส่งออกน้ำมันดิบจะปรับลดลงมาอยู่ที่ 6.9 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนดังกล่าว

- ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นในสัปดาห์ก่อนหน้า แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 2560 หลังโรงกลั่นปรับลดกำลังการกลั่นลง ประกอบกับปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ปรับขึ้นมาอยู่ในระดับสูงสุดเป็นเวลา 5 สัปดาห์ติดต่อกัน

- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เผยว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ในปี 2562 คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นถึง 1.45 ล้านบาร์เรลต่อวัน และคาดว่าจะปรับขึ้นอีก 790,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2563 ส่งผลให้กำลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ จะแตะ 13 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีดังกล่าว

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังการส่งออกจากประเทศจีนมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ในภูมิภาคเอเชียปรับตัวดีขึ้นหนุนตลาด ส่งผลให้ราคาน้ำมันเบนซินปรับลดลงไม่มากนัก

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในภูมิภาคที่อยู่ในเกณฑ์ดี ยิ่งไปกว่านั้น อุปทานน้ำมันดีเซลมีแนวโน้มปรับลดลงจากผลของฤดูกาลปิดซ่อมบำรุงที่กำลังจะมาถึง

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

          ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 51-56 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

          ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 59-64 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

  • การตกลงปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบราว 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวันของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปคมีแนวโน้มที่จะส่งผลให้ตลาดน้ำมันดิบตึงตัวขึ้น โดยล่าสุด ซาอุดิอาระเบียจะปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบลงเพิ่มเติมอีกราว 100,000 บาร์เรลต่อวัน จากระดับการผลิตในเดือนม.ค. 62 สู่ระดับ 10.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นการปรับลดมากกว่าที่ได้ตกลงไว้
  • จับตาการคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันของเวเนซุเอลาโดยสหรัฐฯ เพื่อกดดันให้รัฐบาลมาดูโรออกจากตำแหน่ง โดยการคว่ำบาตรนี้อาจส่งผลให้เวเนซุเอลาต้องเปลี่ยนทิศทางการส่งออกน้ำมันดิบราว 500,000 บาร์เรลต่อวัน ไปยังประเทศอื่นๆ แทนสหรัฐฯ
  • จับตาความคืบหน้าการเจรจาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนก่อนถึงเส้นตายในเดือน มี.ค. 62 ซึ่งหากสหรัฐฯ และจีนไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ก่อนกำหนดดังกล่าว จะส่งผลให้สหรัฐฯ อาจเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่ารวม 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 25 และคาดว่าจีนจะทำการตอบโต้คืนโดยการเพิ่มภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ เช่นเดียวกัน

--------------------------------------

ที่มา : บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)          

         โทร.02-797-2999