'พริมามารีน' สนประมูลแหลมฉบัง

'พริมามารีน' สนประมูลแหลมฉบัง

"พริมา มารีน" จับมือพันธมิตรยื่นประมูลท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 หวังขยายธุรกิจ กระจายการลงทุน พร้อมทุ่มงบ 6 พันล้าน ขยายกองเรือ คาดเพิ่มอีกราว 10 ลำ ในปีนี้ หลังพบความต้องการใช้เรือขนส่งปิโตรฯ สูงขึ้น

นายชาญวิทย์ อนัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมกับกลุ่มพันธมิตรยื่นประมูลท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ในวันที่ 29 มี.ค. 2562 หลังจากที่ผ่านมาได้เข้าไปซื้อซองประมูลแล้ว เนื่องจาก เป็นโอกาสขยายธุรกิจ และเป็นการกระจายการลงทุน ทำให้ผลการดำเนินงานในอนาคตเติบโตต่อเนื่อง

สำหรับสัดส่วนการลงทุนขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนเรื่องเงินลงทุนเพื่อพัฒนาโครงการดังกล่าวนั้น บริษัทได้เตรียมการไว้แล้ว
นายชาญวิทย์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของแผนดำเนินงานในปีนี้ บริษัทมีแผนขยายกองเรือเพิ่มประมาณ 10 ลำ คาดใช้เงินลงทุนกว่า 6 พันล้านบาท เนื่องจาก ธุรกิจขนส่งปิโตรเลียมและปิโตรเคมีเหลวทางทะเลในประเทศและระหว่างประเทศ เติบโตในระดับที่ดี และความต้องการใช้เรือในการขนส่งและกักเก็บน้ำมันดิบ (FSU)เพิ่มขึ้น เพื่อเก็บน้ำมันดิบที่มีซัลเฟอร์ออกไซด์ต่ำ ไว้ผสมกับน้ำมันดิบที่มีซัลเฟอร์ออกไซด์สูง เพื่อให้ได้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้ตามมาตรฐานของ IMO ประกอบกับจำนวนบริษัทให้บริการขนส่งฯลดลง จากปีก่อน เพราะ กฎระเบียบ และมาตรฐานความปลอดภัย และการแข่งขันที่สูง ทำให้บริษัทขนาดเล็กแข่งขันไม่ได้

ทั้งนี้ในช่วงไตรมาส1/2562 รับมอบเรือใหม่จำนวน 6 ลำ ขนาด 3 พันเดทเวทตัน มูลค่าประมาณ 2 พันล้านบาท และ อยู่ระหว่างพิจารณาซื้อเรือ FSU เพิ่มอีก 1-2 ลำ ประมาณ 2,400 ล้านบาท ในไตรมาส2/2562 ซื้อเรือขนส่งขนาดใหญ่ 4 -5 หมื่นเดทเวทตัน เพิ่มในช่วงไตรมาส3-4 อย่างน้อยอีก 1 ลำ

รวมถึงเพิ่มการให้บริการเรือขนส่งที่ใช้สนับสนุนงานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมกลางทะเล ( Offshore) เช่น เรือจัดการสมออีก 4 ลำ โดยจะร่วมกับพันธมิตรในการให้บริการ และเพิ่มเรือขนส่งพนักงาน ทำให้สิ้นปีนี้ขนาดกองเรือมากกว่า 40 ลำ จากปัจจุบันที่ โดยแหล่งเงินทุนนั้น จะมาจากกระแสเงินสดและกู้สถาบันการเงิน ซึ่งภายหลังการกู้อาจทำให้อัตราหนี้สินต่อทุน ( D/E) ของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่ 0.57 เท่า ซึ่งบริษัทมีนโยบายคุมไม่ให้เกิน 1.5 % เท่า