วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (13 ก.พ.62)

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (13 ก.พ.62)

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังกำลังการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปคปรับตัวลดลง

+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังกลุ่มโอเปค เปิดเผยตัวเลขการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มปรับตัวลดลง 800,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน ม.ค. 62 ไปอยู่ที่ระดับ 30.81 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยซาอุดิอาระเบียเป็นประเทศที่ปรับลดกำลังการผลิตสูงที่สุดในกลุ่มที่ระดับ 350,000 บาร์เรลต่อวัน

+ ซาอุดิอาระเบียวางแผนที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบ 500,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน มี.ค. 62 ไปอยู่ที่ระดับ 9.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งต่ำกว่าข้อตกลงที่ทำไว้กับกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรที่ระดับ 10.31 ล้านบาร์เรลต่อวัน

+ สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 8 ก.พ. 62 ปรับตัวลดลง 998,000 บาร์เรล ไปสู่ระดับ 447.2 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.7 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ ปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ณ จุดส่งมอบ คุชชิ่ง โอกลาโฮมา ปรับตัวลดลง 502,000 บาร์เรล

+ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าอาจจะมีการเลื่อนกำหนดเส้นตายในการบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน จากเดิมในวันที่ 1 มี.ค. 62 ออกไป หากสหรัฐฯ และจีนเข้าใกล้การบรรลุข้อตกลงกันได้

- อย่างไรก็ตาม กลุ่มโอเปคคาดการณ์ว่าในปี 2562 อุปสงค์น้ำมันดิบทั่วโลกจะอยู่ที่ระดับ 30.59 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งลดลง 240,000 บาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ในเดือนก่อนหน้า

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานน้ำมันเบนซินในภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับสูง ประกอบกับประเทศจีนเตรียมส่งออกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม อุปทานมีแนวโน้มปรับตัวลดลงหลังโรงกลั่นเข้าใกล้ช่วงฤดูกาลปิดซ่อมบำรุง

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังประเทศจีนและคูเวตส่งออกน้ำมันดีเซลสู่ตลาดมากขึ้น รวมทั้งอุปสงค์น้ำมันดีเซลในประเทศจีนยังคงอ่อนตัว

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

           ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 51-56 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

           ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 59-64 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

  • การตกลงปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบราว 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวันของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปคมีแนวโน้มที่จะส่งผลให้ตลาดน้ำมันดิบตึงตัวขึ้น โดยล่าสุด ซาอุดิอาระเบียจะปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบลงเพิ่มเติมอีกราว 100,000 บาร์เรลต่อวัน จากระดับการผลิตในเดือนม.ค. 62 สู่ระดับ 10.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นการปรับลดมากกว่าที่ได้ตกลงไว้
  • จับตาการคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันของเวเนซุเอลาโดยสหรัฐฯ เพื่อกดดันให้รัฐบาลมาดูโรออกจากตำแหน่ง โดยการคว่ำบาตรนี้อาจส่งผลให้เวเนซุเอลาต้องเปลี่ยนทิศทางการส่งออกน้ำมันดิบราว 500,000 บาร์เรลต่อวัน ไปยังประเทศอื่นๆ แทนสหรัฐฯ
  • จับตาความคืบหน้าการเจรจาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนก่อนถึงเส้นตายในเดือน มี.ค. 62 ซึ่งหากสหรัฐฯ และจีนไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ก่อนกำหนดดังกล่าว จะส่งผลให้สหรัฐฯ อาจเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่ารวม 200,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ จากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 25 และคาดว่าจีนจะทำการตอบโต้คืนโดยการเพิ่มภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ เช่นเดียวกัน

----------------------------------------

ที่มา : บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)          

         โทร.02-797-2999