หวั่นเศรษฐกิจโลกซึมฉุดราคาน้ำมันดิบร่วง

หวั่นเศรษฐกิจโลกซึมฉุดราคาน้ำมันดิบร่วง

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดปรับตัวลง 0.6% ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจจะซบเซา สหรัฐเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันและการเจรจาที่ไม่มีความคืบหน้าของกลุ่มโอเปกเกี่ยวกับการลดกำลังการผลิตน้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนมี.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ปิดตลาดวันจันทร์ (11ก.พ.) ลดลง 0.6%  ปิดที่ราคา 52.41 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ร่วงลง 63 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 61.46 ดอลลาร์/บาร์เรล

ทั้งนี้ เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนเพิ่มขึ้น 7 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 854 แท่น

ด้านสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ขณะที่สหรัฐมีการผลิตน้ำมันสูงเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 11.9 ล้านบาร์เรล/วัน และเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก แซงหน้ารัสเซีย และซาอุดีอาระเบีย

นายอิกอร์ เซชิน ประธานบริษัทรอสเนฟท์ ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย ส่งจดหมายไปยังประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เพื่อให้ทบทวนการที่รัสเซียเข้าร่วมมือกับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในการปรับลดกำลังการผลิต เนื่องจากเป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยง และจะเอื้อประโยชน์ต่อสหรัฐ

ทั้งนี้ สหรัฐไม่ได้เข้าร่วมการปรับลดกำลังการผลิต แต่จะได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่จะดีดตัวขึ้นจากการจำกัดการผลิตของโอเปก และประเทศพันธมิตร

นายเซชิน ซึ่งเป็นคนสนิทของปธน.ปูติน ไม่ได้ระบุในจดหมายว่า เขาต้องการให้รัสเซียถอนตัวจากข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตที่ทำไว้กับโอเปกตั้งแต่ปี 2560 หรือไม่แต่แหล่งข่าวระบุว่า จดหมายดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนต่อเจ้าหน้าที่รัสเซียที่เกี่ยวข้องกับนโยบายพลังงานว่า นายเซชินต้องการให้รัสเซียยุติข้อตกลงดังกล่าว

อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการรับประกันว่า ปธน.ปูตินจะปฏิบัติตามข้อเสนอของนายเซชิน เนื่องจากปธน.ปูตินมองว่าการทำข้อตกลงกับโอเปกเป็นส่วนหนึ่งของภาพใหญ่ในความร่วมมือกับซาอุดีอาระเบียในประเด็นที่เกี่ยวกับซีเรีย และประเด็นอื่นๆในระดับโลก

ทั้งนี้ โอเปกและประเทศพันธมิตรจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันในวันที่ 17-18 เม.ย.ที่กรุงเวียนนา