หนุนกรมควบคุมโรคนำเทคโนโลยีดิจิทัล เพิ่มประสิทธิภาพระบบการเฝ้าระวัง

หนุนกรมควบคุมโรคนำเทคโนโลยีดิจิทัล เพิ่มประสิทธิภาพระบบการเฝ้าระวัง

สธ. หนุนกรมควบคุมโรคนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ เพิ่มประสิทธิภาพระบบการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค

ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะผู้บริหาร ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยมติดตามผลการดำเนินงานของกรมควบคุมโรค ที่สถาบันราชประชาสมาสัย อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ว่า ผลงานกรมควบคุมโรคที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จเป็นที่ชื่นชมของนานาชาติ สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ เช่น การกำจัดโรคเท้าช้าง การกำจัดการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูกของประเทศไทยเหลือเพียงร้อยละ 1.7 ได้รับการรับรองการยุติการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีและซิฟิลิสจากแม่สู่ลูกครั้งที่ 2 จากองค์การอนามัยโลก รวมทั้งเป็นตัวอย่างการสร้างนวัตกรรมสำคัญเช่น ระบบการปรึกษาทางไกลในการตรวจเชื้อผ่านกล้องจุลทรรศน์ และการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพระบบการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรค อาทิ ใช้สมาร์ทโฟน แทบเล็ต ในการจัดเก็บข้อมูลเพื่อเฝ้าระวังพฤติกรรมสุขภาพประชาชนกลุ่มเป้าหมาย พัฒนาแอปพลิเคชันต่าง ๆ ในการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาและการป้องกันควบคุมโรค อาทิ แอปพลิเคชันทันระบาด ป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออก แอปพลิเคชันพิชิตลูกน้ำยุงลาย แอปพลิเคชัน TAS รับเรื่องร้องเรียนบุหรี่ เหล้า

หนุนกรมควบคุมโรคนำเทคโนโลยีดิจิทัล เพิ่มประสิทธิภาพระบบการเฝ้าระวัง

ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกลกล่าวต่อว่า ในปีนี้ ได้เตรียมการเพื่อรองรับพระภารกิจ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ที่ทรงตอบรับคำทูลเชิญตำแหน่งทูตสันทวไมตรีระดับภูมิภาคของ UNAIDS ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค  ซึ่งจะมีคุโณปการสำคัญต่อแผนงานเร่งรัดการยุติปัญหาเอดส์ในไทย  รวมทั้งเตรียมแผนงานเร่งรัดการยุติปัญหาเอดส์ในเรือนจำ ไว้รองรับพระภารกิจทูตสันทวไมตรีของพระองค์ และได้รับพระกรุณาธิคุณจากพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงเป็นองค์ที่ปรึกษา  โดยเป็นความร่วมมือของกรมราชทัณฑ์ กรมควบคุมโรค และองค์กรภาคีเครือข่าย มีเป้าหมายเพื่อคืนคนดีและคนสุขภาพดีสู่สังคม และลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการสาธารณสุข ตั้งเป้าในปี 64 ต้องขังรู้สถานะร้อยละ 95 รับการรักษาร้อยละ 95 และกดไวรัสสำเร็จร้อยละ 95

ด้านนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ความสำเร็จการดำเนินงานสำคัญ ได้แก่ โครงการจิตอาสาพระราชทานฯ กับการลดโรคไข้เลือดออก ทำให้ผู้ป่วยลดลงประมาณ 5 หมื่นราย ลดเสียชีวิต 50 รายจากที่คาดการณ์ไว้ ลดการสูญเสียทางเศรษฐกิจถึง 250 ล้านบาท  ความร่วมมือในการควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า โครงการพระปณิธานฯ บูรณาการทุกภาคส่วน ทั้งการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค และสื่อสารความเสี่ยง ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้ประชาชนตระหนักในการป้องกันตนเองและลดความเสี่ยงต่อการรับเชื้อ และโครงการ “ทศวรรษกำจัดปัญหาพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี พ.ศ.2559-2568” ถวายเป็นพระราชกุศลฯ ตั้งแต่ปี 2559-2561 คัดกรองแล้ว 570,168 คน ประชาชนได้รับการป้องกัน 2,378,248 คน รับการรักษาหาย 46,880 คน 

ในปีนี้ กรมควบคุมโรค ได้ปฏิรูปสถาบันราชประชาสมาสัย เพิ่มบทบาทด้านการเฝ้าระวัง ป้องกันโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากผู้ป่วยโรคเรื้อนลดลงจนไม่เป็นปัญหาด้านสาธารณสุข ประกอบกับสถานที่ตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรม และมีทรัพยากรที่พร้อมและเหมาะสม โดยจะพัฒนาระบบบริการสุขภาพและเครือข่ายการส่งต่อ เทคโนโลยีด้านการเฝ้าระวังป้องกันโรค องค์ความรู้และเสริมสร้างศักยภาพคน และระบบการฟื้นฟูสภาพด้านโรคจากการประกอบอาชีพ เพื่อให้เป็นสถาบันที่เป็นเลิศด้านโรคเรื้อนระดับนานาชาติและโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อมระดับชาติ ภายในปี 2563