CHAYO - ซื้อ

CHAYO - ซื้อ

ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี61 เพิ่มขึ้น 17% สู่ 88 ล้านบาท และคาดกำไรสุทธิ 4Q61 เติบโตสูงถึง 81%YoY

ประเด็นสำคัญในการลงทุน :

  • รายงานกำไรสุทธิงวด 9M61 อยู่ที่ 64 ล้านบาท เติบโต 42%YoY ตามการรับรู้รายได้จากกองสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ: รายงานกำไรสุทธิงวด 9M61 อยู่ที่ 64 ล้านบาท เติบโต %YoY เติบโต 42%YoY เติบโตตามรายได้รวมที่เพิ่มขึ้นราว 20% สู่ 187 ล้านบาท โดยบริษัทยังสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นได้ใกล้เคียงเดิมที่ 44% แต่มีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ลดลงราว 24%YoY สู่ 17 ล้านบาท เนื่องจากมีการตั้งภาษีเงินได้รอตัดบัญชีเพิ่มขึ้น ทำให้อัตรากำไรสุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 9M60 ที่ 29% สู่ 35% โดยกำไรสุทธิในงวด 9M61 คิดเป็น 85% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 61 ที่ 75 ล้านบาท
  • ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 61 เพิ่มขึ้น 17% สู่ 88 ล้านบาท จากที่คาดกำไรสุทธิ 4Q61 เติบโตสูงถึง 81%YoY : ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 61 เพิ่มขึ้น 17% สู่ 88 ล้านบาท หลังบริษัทสามารถดำเนินงานได้ดีกว่าคาดจากการรับรู้รายได้จากกองสินทรัพย์ด้อยคุณภาพชนิดมีหลักประกันที่บริษัทประมูลมาตั้งแต่ปี 60 และเริ่มรับรู้เป็นรายได้ในปี 61 และกองสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่บริษัทประมูลเพิ่มมาในปี 61 มีมูลหนี้ราว 10,000 ล้านบาท โดยเราคาดการณ์กำไรสุทธิ 4Q61 ราว 23 ล้านบาท เติบโต 81%YoY
  • ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 62 เพิ่มขึ้น 17% เนื่องจากบริษัทสามารถทำได้ดีกว่าคาด: ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 62 เพิ่มขึ้น 17% สู่ 108 ล้านบาท หลังบริษัทสามารถทำได้ดีกว่าที่คาด โดยมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากกองสินทรัพย์ด้อยคุณภาพราว 10,000 ล้านบาทที่ประมูลมาในช่วงปี 61 และสำหรับปี 62 บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ที่ราว 1,300 ล้านบาท เพื่อใช้ในการประมูลกองสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ 1,000 ล้านบาท คาดจะเป็นชนิดมีหลักประกันราว 70% และไม่มีหลักประกันราว 30% และใช้เป็นเงินทุนในธุรกิจปล่อยกู้รายย่อยราว 300 ล้านบาท โดยจะใช้เงินทุนจากการออกหุ้นกู้กว่า 1,250 ล้านบาทและจากการเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงโดยจะออกหุ้นเพิ่มทุนอีกราว 56 ล้านหุ้น ซึ่งยังไม่กำหนดราคาเสนอขาย(Control Dilution -9.1%)
  • ปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ” ที่ราคาเหมาะสม 4.80 บาท : ฝ่ายวิจัยประเมินราคาเหมาะสมโดยอิง Prospect PER ที่ 28 เท่าซึ่งสูงกว่าคู่แข่งที่ระดับ 23 เท่าเนื่องจากมีศักยภาพการเติบโตที่โดดเด่นกว่า  โดยประเมินกำไรสุทธิต่อหุ้นปี 62 ราว 0.17 บาทได้ราคาเหมาะสม 4.80 บาท ซึ่งมีอัพไซต์ราว 19% จากราคาปัจจุบัน จึงปรับคำแนะนำจาก “ซื้อเก็งกำไร” เป็น “ซื้อ”

ความเสี่ยง  1. มีการเก็บหนี้ได้น้อยกว่าที่คาด

               2. ไม่สามารถขายหลักประกันได้ตามที่คาดไว้